นวัตกรรม Thermage คืออะไร? ขณะทำเจ็บไหม? ช่วยยกกระชับผิวได้จริงหรือไม่?

ถ้าพูดถึงเรื่องการยกกระชับผิว หลายคนคงคิดถึงวิธีการผ่าตัดดึงหน้ากันใช่มั้ยคะ แต่วันนี้เรามีวิธีง่ายกว่านั้นสำหรับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย ขาดความตึงกระชับ มีไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า และ เหนียงใต้คาง ที่อยากยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีของ Thermage ที่จะช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผล

เลือกอ่านเนื้อหา

ทำความรู้จักกับ Thermage คืออะไร?

Thermage (เทอร์มาจ) เป็นเทคโนโลยีความงามที่มีความปลอดภัย มีการพัฒนาขึ้นมาใช้ในทางการแพทย์ ที่ช่วยยกกระชับผิว และกระตุ้นคอลลาเจน ด้วยการ ที่ปล่อยพลังงานความร้อนคลื่นวิทยุ ได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (dermis) รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) จึงสามารถยกกระชับหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ผ่านการรับรองจาก (U.S. FDA) อย.ไทย

หลักการทำงานของ Thermage

Thermage ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างไร
  • Thermage มีหลักการทำงานโดยส่งผ่านพลังงานความร้อนแบบคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) แบบขั้วเดียว ที่เจาะจงตำเเหน่งความถี่สูง ลงใน 3 ชั้นผิวที่ลึกจนถึงชั้นไขมันเพื่อให้ความร้อนไปกระตุ้นคอลลาเจนใหม่
  • ในระหว่างการส่งผ่านพลังงานลงสู่ชั้นผิว Thermage จะมีเทคโนโลยีที่เป็นระบบสั่นเพื่อช่วยลดความเจ็บ ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานความร้อนไปยังผิวชั้นลึก และ มีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ เพื่อลดโอกาส Burn รวมทั้งมี Vibration ที่ทำให้เกิดความรู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น
  • พลังงานความร้อนจาก Thermage จะทำการแยกโมเลกุลของน้ำออกจากเส้นใยคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนหดตัวทันที จึงเป็นสาเหตุทำให้มีความกระชับขึ้น
  • ช่วยให้เกิดการมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้น และ ทำการจัดเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวแน่น และดูยกกระชับขึ้นเรื่อย ๆ

Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?

ตำแหน่ง Thermage

การทำ Thermage สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำตัว และ รอบดวงตา โดยจำนวนช็อตที่ใช้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิว บริเวณที่ต้องการทพ และ การประเมินของแพทย์ เช่น

  • บริเวณใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าและลำคอหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีแก้มห้อย มีเหนียง ผิวใต้คาง ต้องการยกกระชับให้ใบหน้าเรียวกระชับ และให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น
  • บริเวณรอบดวงตา เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยรอบดวงตา ผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย และ ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาคิ้วตก ด้องการยกคิ้วให้ได้รูปหนังตาตก หรือ ผู้ที่มีผิวเปลือกตามีรอยย่น แต่สำหรับผู้ที่มีรอยคล้ำใต้ตา มีปัญหาผิวแห้ง ตาลึกตาโหล แนะนำให้แก้ปัญหาด้วยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะตรงจุดมากกว่า
  • บริเวณลำตัว เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความหน่อนคล้อยบริเวณ ต้นแขน, ต้นขา, สะโพก, หลังมือ, หน้าท้องให้มีความกระชับเรียบเนียนขึ้นได้

เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น ?

เครื่อง Thermage ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทำให้ในปัจจุบันมี 4 รุ่นด้วยกัน คือ

  1. Thermage รุ่น TC (2003)
  2. Thermage รุ่น NXT (2007)
  3. Thermage รุ่น CPT (2009)
  4. Thermage รุ่น FLX (2018)

เครื่อง Thermage ที่นิยมใช้ในประเทศไทย คือ Thermage CPT และ Thermage FLX ซึ่งเป็นเครื่อง Thermage ที่ทันสมัยที่สุด

ความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ RF ทั่วไป

การทำ RF แบบทั่วไปเป็นกาาส่งพลังความร้อนแบบ Bipolar RF ที่คลื่นความร้อนไม่สามารถลงลึกได้ถึงชั้นใต้ผิวหนัง หรือชั้นไขมัน แต่ Thermage เป็นการส่งผ่านพลังงานความร้อนคลื่นวิทยุ แบบ Monopolar RF ที่ปล่อยพลังงานออกมาเป็น Volumatic ซึ่งสามารถสร้างความร้อนใต้ผิวหนังได้ลึกและทั่วถึงมากกว่า Ulthera SPT ทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัว เกิดการสร้างคลอลาเจนใหม่ และ ช่วยให้ไขมันเกิดการย่อยสลายได้

เครื่อง Thermage ปลอม มีลักษณะอย่างไร

เนื่องจากการทำ Thermage เป็นการยกกระชับที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี จึงทำให้ได้รับความสนใจ จากผู้ใช้บริการมากแต่มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงทำให้มีการใช้ เครื่อง Thermage ปลอม ในหลายๆคลินิกและทำโปรโมชั่น ราคาถูก เพื่อเรียกลูกค้า โดยมีการปลอมมีหลายลักษณะเช่น

  • ปลอมทั้งเครื่อง ปลอมที่อุปโลกน์ ด้วยการทำเครื่องที่มีรูปลักษณ์หน้าเหมือนกับเครื่อง Thermage ของจริง
  • Thermage ของแท้แต่ใช้หัวปลอม หรือหัวจริงที่ใช้ไปแล้ว คือหัวยิง Thermage จะเป็นหัวที่ใช้แล้วทิ้ง 1 หัวจะยิงได้ 900 shot เท่านั้น จึงทำให้มีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง บางคลินิกที่มีราคาถูกอาจเป็นเพราะเก็บหัวไว้ใช้ซ้ำนั่นเอง

วิธีตรวจสอบเครื่อง Thermage แท้

วิธีตรวจสอบหากมองผิวเผินก็อาจไม่สามารถตรวจสอบได้ วิธีที่ดีสุดคือ ให้เลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ ขอให้แพทย์แกะกล่องหัวยิงให้ดูต่อหน้าได้ เพื่อความมั่นใจว่าเป็นหัวของแท้และไม่ใช้หัวยิงที่นำกลับมาใช้ซ้ำ

ข้อดีของการทำ Thermage มีอะไรบ้าง

การทำเทอร์มาจเป็นวิธีการยกกระชับอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมซึ่งมีข้อดีคือ

  • ไม่ใช่การผ่าตัดถึงไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องทนกับอาการบวมช้ำ หลังทำใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • ใช้เวลาทำไม่นาน เพียง 40-90 นาที
  • เห็นผลหลังทำทันที 20 % และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังการทำ 2-3 เดือน
  • ให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการผ่าตัดเนื่องจากเป็นการยกกระชับครอบคลุมทุกชั้นผิว
  • ให้ผลยาวนาน 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล)
  • ทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ และ ลำตัว
Thermage เหมาะกับใคร

Thermage เหมาะและไม่เหมาะกับใครบ้าง?

ใครบ้างที่เหมาะทำ Thermage ?

การทำเทอร์มาจ จะช่วยทำให้หน้าเรียวขึ้น นิยมทำกับคนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ หรือ คนที่อายุมากๆ มีหนังห้อยย้อย ผิวมีริ้วรอย ขาดคอลลาเจน หรือมีไขมันใต้คาง ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ยกกระชับผิวเพื่อให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใบหน้า ลำคอ หน้าท้อง ต้นแขน ตนขา มีความหย่อนคล้อย
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหา เซลลูไลน์บริเวณต้นขา สะโพก
  • เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง เหนียง

Thermage ไม่เหมาะกับใคร ?

  • ไม่เหมาะกับสตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์
  • ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคหัวใจที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (pacemaker)

หน้าตอบ ทำ thermage ได้ไหม ?

Thermage เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมมาก ในกรณีที่แก้มตอบ ผิวหย่อนคล้อย กล้ามเนื้อไม่กระชับ แต่ไม่มีไขมัน แนะนำให้ยกกระชับด้วย Ulthera SPT จะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า

การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage มีอะไรบ้าง?

ก่อนทำThermage ไม่ต้องมีการเตรียมอะไรให้ยุ่งยาก เนื่องจากไม่ใช่การผ่าตัด และไม่มีการใช้เข็ม แต่หากมีการร้อยไหม หรือ การฉีดฟิลเลอร์มาควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้ใบหน้าเข้าที่เสียก่อน

ขั้นตอนการทำ Thermage ?

  1. ผู้เชี่ยวชาญจะทำความสะอาดบริเวณผิวที่ต้องการยกกระชับ
  2. แปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
  3. แพทย์จะใช้เครื่องมือ Thermage มายิงกระตุ้นตามจำนวน shot ที่ประเมินไว้ โดยใช้เวลาในการทำประมาณ 45-90 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและตำแหน่งที่จะทำ)
  4. หลังการทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น

หลังทำ Thermage ควรดูแลอย่างไร?

  • หลังทำอาจมีอาการหน้าบวมเล็กน้อย และผิวมีสีแดง แต่เป็นอาการที่ปกติ สามารถหายได้เอง
  • พยายามหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ๆ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์
  • ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้งก่อนออกไปเจอกับแสงแดด
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงความเครียด และ ทานอาหารเสริมหรือวิตามินที่มีประโยชน์กับผิว

หลังทำ Thermage มีข้อห้ามอะไรบ้าง?

  • งดการทำทรีทเมนท์ การสครับขัดผิว หรือทำเลเซอร์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเช่น แสงแดด การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์

Thermage อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

Thermage ถือเป็นหัตถการ ด้วยความถี่ของคลื่นวิทยุ จึงมีความปลอดภัย ที่ไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ ต่อผิว แต่อาจมีผลข้างเคียงที่สามารถพบได้บ่อยคือ

  • หลังทำผิวอาจมีอาการบวมแดง ซึ่งไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เอง
  • มีความรู้สึกระบมใต้ผิว ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 3-7วัน

ผลข้างเคียงจากการใช้เครื่อง Thermage ปลอม

สำหรับการใช้ตัวเครื่องThermage ที่ไม่ใช่ของแท้ที่ได้มาตรฐาน คนไข้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือทำแล้วไม่เห็นผล ไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย แต่ในบางกรณีที่ร้ายแรงอาจทำให้ผิวได้รับความเสียหาย หรือมีอาการบาดเจ็บได้ เช่น เกิดรอยดำ ผิวอักเสบ พื้นผิวเกิดรอยบุ๋ม ขรุขระ ผิวไหม้ หรือปากเบี้ยวได้

Thermage / Hifu / Ulthera ต่างกันอย่างไร ?

Thermage จะส่งลงไปยังชั้นผิว เทอร์มาจจะออกฤทธิ์ในส่วนชั้นไขมันและชั้นผิวทุกชั้นใต้ผิวหนังสามารถกระชับกรอบหน้า เหนียงใต้คอ ในคนที่ใบหน้ามีไขมันได้ดีกว่า Hifu ให้ผลลัพธ์ในการกระชับได้ทันที หลังทำจะรู้สึกได้ว่าผิวแน่นขึ้นจากการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ด้วยหัว Thermage 0-4.3 mm ที่จะยิงทุกอณูในชั้นผิว
Ulthera กับ Hifu จะมีความคล้ายกัน แต่ต่างตรงประสิทธิภาพของ Ulthera จะดีกว่า hifu เพราะสามารถส่งพลังงานลงไปในชั้นลึกเพื่อยกกระชับหน้าโดยตรง ซึ่ง Ulthera และ Hifu จะมีหัวหลายระดับความลึกตั้งแต่ 2, 3, 4.5 mm แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมเท่า Thermage

Thermage ทำให้รู้สึกเจ็บไหม ?

ความเจ็บของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ในขั้นตอนระหว่างทำ คนไข้จะรู้สึก Warm But Tolerate คือมีความอุ่นที่ผิว โดย Thermage FLX จะมีระบบ Cooling effect เพื่อป้องกันผิวไหม้ ทำให้เจ็บน้อยลง และก่อนทำหัตถการจะมีการแปะยาชาทุกครั้ง จึงเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ เนื่องจากการส่งพลังงานเข้าไปในทุกชั้นของผิวนั่นเอง

ผลลัพธ์ของ Thermage อยู่ได้นานแค่ไหน ?

โดยปกติแล้วผลลัพธ์ที่จะอยู่ได้ 1-2 ปี แต่หากต้องการความยกกระชับที่มากขึ้น สามารถทำได้ทุก 3 เดือนแนะนำให้มีการทำ Thermage อย่างต่อเนื่องอย่างน้อยปีละครั้งคงสภาพผลลัพธ์ที่ได้เอาไว้

ทำ Thermage กี่ครั้งจึงจะเห็นผล

หลังการทำ Thermage จะสังเกตได้เลยว่าผิวมีการยกกระชับขึ้น จากการทำเพียงครั้งเดียว และ ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และ เห็นผลได้ดีที่สุดภายในเดือนที่ 6 สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี

การยกกระชับด้วย Thermage ควรใช้พลังงานเท่าไหร่ถึงจะดี?

กระชับด้วย Thermage จะแบ่งแบ่งพลังงานเป็น 0-4 ระดับ ดังนี้

  • ระดับ 0-1 คนไข้จะรู้สึกผิวสั่นอย่างเดียว แต่ยังไม่รู้สึกอุ่น ในระดับนี้จะให้ผลการรักษาที่น้อย ไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์
  • ระดับ 2-2.5 ในค่าพลังงานนี้จะรู้สึกร้อนในระดับที่ทนได้ ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับเป็นไปตามที่ต้องการ
  • ระดับ 3-4 ร้อน ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าในระดับอื่น แต่อาจทำให้บาดเจ็บได้และยังไม่เหมาะกับเคสที่ผิวแพ้ง่ายเพราะให้ความร้อนที่มากเกินไป
    โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะปรับค่าพลังงานตามความเหมาะสม และคอยเช็คความร้อนกับคนไข้เป็นระยะ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

สรุป ทำ Thermage แล้วดีจริงไหม?

สำหรับผู้ใดที่มีปัญหาผิวยนคล้อย มีริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ร่างกาย สูญเสียความยืดหยุ่นจากการผลิตคอลลาเจนที่ลดลง การทำ Thermage เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผิวสามารถยกกระชับขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะมากๆสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น และ ผู้ที่กลัวเข็ม

แหล่งข้อมูลต่างๆ :

Thermage vs. Ultherapy March 16, 2021 (https://www.healthline.com/health/thermage-vs-ultherapy)

So, Are Radiofrequency Treatments Really Safe? NOVEMBER 16, 2020 (https://www.americanboardcosmeticsurgery.org/are-radiofrequency-treatments-really-safe/)