ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม? ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง อันตรายมากน้อยแค่ไหน?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ใครที่มีปัญหาปากบาง ปากแห้ง ทาลิปสติกแล้วตกร่อง หรือ มีปัญหาปากไม่เท่ากัน ต้องการปรับรูปทรงของริมฝีปาก การฉีดฟิลเลอร์ปาก ถือเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถตอบโจทย์ได้ชัดเจน แต่จะเลือกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย และ ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มีอะไรบ้างที่ควรทราบ มาดูกันค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก (Lip Filler) คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำเข้าไปที่บริเวณริมฝีปาก เพื่อปรับขนาดโครงสร้างปาก และ เพิ่มเนื้อปากให้ดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น นิยมใช้ในการแก้ปัญหาปากแห้ง ปากแตก ปากบน-ล่างไม่เท่ากัน และ ฉีดเลอร์ยกมุมปากเพื่อแก้ปัญหาปากคว่ำที่ทำให้หน้าดูดุ ให้กลับมายิ้มแย้มได้อีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ปากมีกี่ทรง แบบไหนนิยมสุด

เทรนปากสุดฮิตตอนนี้ จะมี 3 รูปทรง ซึ่งแต่ละทรงจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่

รูปทรงปาก ของคนเอเชีย

ทรงปากกระจับ

จะมีจุดเด่นคือ ริมฝีปากทั้งส่วนบนและส่วนล่างได้รูปสวยงามดูสมดุลเข้ากันกับใบหน้า รูปทรงคล้ายผลกระจับ หรือ ปากบนมีลักษณะโค้งเรียวสวย แต่บางคนอาจเรียกปากทรงนี้ว่าปากปีกนกเพราะมุมปากกระจับจะเรียวและยกขึ้นคล้ายปีกนก เป็นรูปที่ดูเป็นธรรมชาติ สมดุลกันทั้งปากบนและปากล่างดังสัดส่วนต่อไปนี้

  • ขนาดของริมฝีปากบน : ล่าง มีสัดเหมาะสม คือ 1:1.6-1.8
  • ร่องริมฝีปากบนมีขอบหยักเป็นรูปตัว M ชัดเจน ดูมีมิติ คมชัด
  • มุมปากทั้งสองข้างดูยกขึ้น มุมปากไม่ตก
  • เนื้อริมฝีปากล่างต้องไม่ใหญ่เกินยอดของรอยหยักตัว M ของริมฝีปากบน
  • ขอบปากมีสัดส่วนเท่ากันทั้ง 2 ข้าง
  • เมื่อลากเส้นจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างแล้วจะแตะเส้นนี้พอดี และริมฝีปากบนควรจะห่างจากเส้นนี้ 2 mm
  • เนื้อปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง ไม่มีริ้วรอย

ทรงปากสายฝอ

เป็นปากที่มีลักษณะให้ความอวบอิ่ม เซ็กซี่ โดย จะเน้นให้ริมฝีปากล่างดูอวบอิ่มและริมฝีปากบนดูเจ่อเล็กน้อย เป็นรูปทรงปากแบบฝรั่ง หรือที่หลายคนเรียกว่าสายฝอ ซึ่งกำลังมาแรงตามกระแสดาราในขณะนี้นั่นเอง แต่สำหรับคนเอเชียแล้วขอแนะนำให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์สัดส่วนใบหน้าก่อนนะคะว่าเข้ากับใบหน้าหรือไม่

ฟิลเลอร์ปากสายฝอ

ทรงปากสายเกาหลี

รูปทรงของปากสายเกา จะมีจุดเด่นคือมีลักษณะของเหมือนลูกเชอร์รี 2 ลูก มาประกบกันอยู่ตรงกลางริมฝีปาก จึงได้ฉายาว่า Cherry Lips โดยช่วงกลางของริมฝีปากบน และ ช่วงกลางของริมฝีปากล่าง จะมีความอวบอิ่มกว่าปากด้านล่าง ซึ่งรูปปากทรงนี้จะทำให้หน้าดูเด็ก และ ริมฝีปากน่าจุ๊บอีกด้วย

โหงวเฮ้งปากที่ดี-ไม่ดี เป็นอย่างไร

โหวงเฮ้งของรูปปาก

ลักษณะโหวงเฮ้งของรูปปากมีทั้งส่งผลดีและไม่ดีต่อโชคชะตา ดังนั้นจึงแบ่งลักษณะปากได้ดังนี้

  • ลักษณะโหงวเฮ้งปากที่ดี
    ขนาดของปากที่ได้มาตรฐาน ไม่ยาวเกินหรือสั้นเกิน และกว้างเสมอกึ่งกลางของลูกตาดำทั้ง 2 ข้าง โดยมีมุมปาก หรือขอบปากจะต้องมีหยักยกขึ้นเล็กน้อยทั้ง 2 ข้าง ซึ่งหากมีลักษณะดังนี้ มักจะเป็นคนซื่อสัตย์ กล้าคิดกล้าทำ กระตือรือร้นสูง
  • ลักษณะโหงวเฮ้งปากที่ไม่ดี
    หากริมฝีปากบางเล็กเกินไป มีมุมปากคว่ำตกลงมา หรือมีลักษณะปากหนาทั้งบนล่างมากๆ ทำให้เหมือนคนที่อารมณ์ไม่ดีตลอดเวลา มักเป็นคนที่ลงทุนทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ เก็บเงินไม่อยู่ ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง

การฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากจะช่วยเติมเต็มผิวปากให้อวบอิ่มได้รูปที่สมบูรณ์แบบรับกับสัดส่วนอื่นๆ บนใบหน้าแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาผิวปากได้อีกหลายประการดังนี้

  • แก้ปัญหาริมฝีปากเหี่ยวเป็นร่อง
  • แก้ปัญหาริมฝีปากบางเกินไป
  • แก้ปัญหาริมฝีปากแห้งกร้าน ให้กลับมาอวบอิ่มน้ำ
  • แก้ปัญหารูปปากไม่ชัด ให้กลับมามีขอบปากชัดขึ้น
  • แก้ปัญหาในผู้ที่ต้องการปรับทรงปากตามเทรนด์ต่างๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้นนาน

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะ – ไม่เหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปทรงของปาก

การทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการเติมเต็มผิวปากให้กลับมาเนียนนุ่มได้รูป ซึ่งมีผลต่อมิติรูปหน้า แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่หัตถการที่ใครก็ทำแล้วได้ผลลัพธ์ออกมาดี ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ ควรเช็คความเหมาะสมได้จากปัจจัยดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีริมฝีปากแห้งกร้าน เริ่มเป็นร่อง ที่เกิดจากอายุมากขึ้น หรือพฤติกรรมชีวิตประจำวัน เช่น ดื่มน้ำน้อย ไม่ทาลิปดูแลผิวปาก เป็นต้น
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปปากให้เข้ากับใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องทาลิปสติกปากเป็นประจำ แล้วไม่ต้องการให้สีตกร่องปาก
  • ผู้ที่มีผิวปากบาง เหี่ยวย่น
  • ผู้ที่มีขอบปากไม่ชัด

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีเส้นเลือดบาง เสี่ยฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด
  • ผู้ที่มีริมฝีปากหนาอยู่แล้ว
  • ผู้ที่มีแผลบริเวณปาก จะต้องรักษาให้หายก่อนฉีดฟิลเลอร์
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ง่าย หรือแพ้กรดไฮยาลูรอนิค (HA)
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • ผู้ที่กำลังเป็นโรคเริม หรืองูสวัด

ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม เลือกแบบไหนถึงจะปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปลอดภัยไหม

เนื่องจากสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก Hyaluronic Acid (HA) แท้ สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ 100% จึงให้ความปลอดภัยที่สูง หากได้รับการฉีดกับสถานพยาบาล หรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทำโดยแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะ จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวใดๆ ทั้งสิ้น แต่หากฉีดกับหมอกระเป๋า ที่ฉีดโดยฟิลเลอร์ปลอม แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่อาจไม่สวย และไม่คุ้มค่ารักษาผิว ที่อาจเกิดการแพ้ ผื่นแดง หลอดเลือดผิวฉีกขาด และติดเชื้อได้ เป็นต้น

อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

การฉีดฟิลเลอร์ปากในปัจจุบัน ถือเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมมาก ทำให้มีหลายคลินิกทำโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ปากในราคาถูก ซึ่งจะต้องทำการสอบถามให้ละเอียดก่อนว่าเป็นเลอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ผ่านอย. หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆที่เกิดจากฟิลเลอร์ปลอม เช่น

  • มีอาการอักเสบ ติดเชื้อรุนแรงจนอาจเกิดอาการปากเน่าได้
  • เสี่ยงต่อการไหลย้อย บวมเป็นก้อน ไม่สลายไปตามธรรมชาติ จนทำให้ปากผิดรูป โดยไม่สามารถแก้ไขได้
  • เสี่ยงต่อเนื้อเยื่อถูกทำลาย เนื้อตาย ตาบอด

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัยต่อริมฝีปาก

ตามหลักมาตรฐานสากลของฟิลเลอร์แท้ หรือยี่ห้อแท้ที่ผ่านอย.ไทย อย่างถูกต้อง จะสามารถสังเกตได้จากกล่อง และขวดฟิลเลอร์ เพราะจะมีรายละเอียดยืนยันว่าเป็นของแท้ได้ดังนี้

กล่องฟิลเลอร์

  • กล่องต้องปิดผนึก ไม่มีรอยบุบ ไม่ผ่านการโดนแกะมาก่อน
  • มีฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่อง และมีราคาระบุชัดเจน
  • มีวันหมดอายุ ระบุอยู่ข้างกล่อง
  • มีเลขล็อตสินค้า (lot number) ติดอยู่ที่ข้างกล่อง และต้องตรงกับเลข Lot. ที่หลอด

ภายในกล่องฟิลเลอร์

  • มีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทยบรรจุอยู่
  • มีชื่อบริษัทที่นำเข้าอย่างชัดเจน
  • ต้องมีฉลากระบุว่า ยาควบคุมพิเศษ ใช้เฉพาะสถานพยาบาลเท่านั้น
  • มีเลขล็อตสินค้า (lot number) ติดอยู่ที่หลอด และต้องตรงกับเลข Lot. ที่ข้างกล่อง

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้ปริมาณฟิลเลอร์กี่ CC ถึงเห็นผล

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 1cc 14วัน

ปริมาณที่เหมาะสมกับการเติมเต็มร่องปาก และปรับแต่งทรงปากให้ได้รูปจะอยู่ที่ 1 CC ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนแล้ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข และขึ้นอยู่กับการออกแบบตกแต่งรูปปากโดยแพทย์ ในบางเคส เช่น มีผิวปากบางมาก และต้องการรูปปากทรงอวบอิ่ม (Sexy Kysse) สามารถเติมฟิลเลอร์ได้ถึง 2 CC

ฟิลเลอร์ปาก VS ผ่าตัดปาก มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

การฉีดฟิลเลอร์ปากและการผ่าตัดปาก จะมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เช่น

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก
    จะเน้นเพิ่มความอวบอิ่ม เหมาะกับคนที่ริมฝีปากบางไม่เป็นทรง และ คนที่มีปัญหาปากแห้ง แต่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวรเพราะฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น
  • การผ่าตัดปาก
    มีข้อดีคือให้ผลลัพธ์ที่ถาวรเหมาะกับคนที่มีริมฝีปากหนาไม่เป็นรูปทรง แต่การผ่าตัดอาจต้องมีระยะเวลาในการพักฟื้น และ หากเกิดข้อผิดพลาดอาจทำการแก้ไขได้ยาก

เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างการฉีดฟิลเลอร์และศัลยกรรมปาก

ข้อแตกต่างฉีดฟิลเลอร์ปากศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก
เทคนิคที่ใช้ใช้เข็มฉีด นำสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ลงไปเติมเต็มใต้ผิวปากใช้วิธีผ่าตัดแต่งผิวหนังปาก และเย็บด้วยไหมพิเศษที่ใช้ในการแพทย์
วิธีระงับอาการเจ็บแปะยาชา
ใช้ฟิลเลอร์ที่ผสมยาชา
ฉีดยาชา เพื่อระงับอาการเจ็บก่อนผ่าตัด
ระยะเวลาในการทำ45 นาที – 1 ชั่วโมง1-2 ชั่วโมง
ระยะเวลาพักฟื้น3- 5 วัน7-21 วันเป็นอย่างต่ำ
ผลลัพธ์หลังทำเห็นผลทันทีหลังทำต้องรอแผลสมานตัว และอาการบวมหายสนิทประมาณ 10 วัน
ระยะเวลาแสดงผลลัพธ์6-18 เดือนสามารถรักษารูปปากได้ถาวร

ผ่าตัดทำปากบางมาแล้วบางเกินไป เติมฟิลเลอร์ปากแก้ได้ไหม?

หากคนไข้เคยผ่าตัดปากมาแล้วรู้สึกว่าบางเกินไป หรือ ริมฝีปากไม่เท่ากัน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับให้รูปปากที่ดูสมดุลและอิ่มฟูขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเพราะถ้าหากมีเนื้อน้อยมากจนเกินไปก็ไม่สามารถเติมฟิลเลอร์แก้ได้ และ ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีใดๆได้เลย ดังนั้นก่อนที่จะผ่าตัดริมฝีปากควรศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน

วิธีเตรียมความพร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการความงามแบบไม่ต้องผ่าตัด จึงแทบไม่ต้องมีเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ แต่เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพ้ หรือภาวะบวมนานผิดปกติ ควรปฏิบัติตัวดังนี้

  • แจ้งโรคประจำตัว และยาที่กินอยู่ในปัจจุบันให้แพทย์ทราบล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อประเมินการใช้ยาชาได้อย่างพอเหมาะ
  • งดยา วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพรต่างๆ ที่มีผลทำให้เลือดไหลหยุดช้า หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์ทันที
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2 สัปดาห์ เพื่อให้หลังฉีดยุบตัวเร็ว เห็นผลลัพธ์ไวขึ้น
  • งดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์
  • ดูแลผิวปากไม่เป็นแผล
  • ล้างหน้าให้สะอาด งดทาลิปสติก ในวันฉีดฟิลเลอร์ปาก

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ถูกต้อง

  • แพทย์ที่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นผู้ลงมือฉีดเอง
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องนำฟิลเลอร์ออกมาให้ผู้เข้ารับบริการเช็ก ตรวจสอบยี่ห้อฟิลเลอร์ ว่าเป็นของแท้ และไม่เคยเปิดฝาหรือผ่านการใช้งานใดๆ มาก่อน
  • หากฟิลเลอร์ไม่มีส่วนผสมของยาชา แพทย์จะทำการแปะยาชาบริเวณปาก
  • หลังจากยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ลงในตำแหน่งผิวปากที่ได้ทำการออกแบบไว้
  • หลังจากนั้นแพทย์จะปั้น จัดทรงฟิลเลอร์ให้สวยและเหมาะสม เป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้เวลาประมาณ 45นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวปากของแต่ละคน

อาการข้างเคียงที่พบได้ปกติ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจมีอาการเจ็บ แสบ คัน และตึงๆ บริเวณปาก ซึ่งอาการเหล่านี้ เป็นอาการปกติอันเกิดจากผิวเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อเข็มฉีดยาและสารเติมเต็ม จะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง
  • อาการไม่พึงประสงค์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
  • โดยปกติแล้วอาการบวม แดง ช้ำ และเจ็บบริเวณที่ฉีดจะค่อยๆ หายได้เองภายใน 3 วัน แต่หากมีอาการแย่ลง สีผิวบริเวณที่ฉีดดูคล้ำลง ผิวบริเวณที่ฉีดจับเป็นก้อนนูน ไม่เรียบเนียนเสมอกับผิว หรือแค่เอามือไปสัมผัสก็เจ็บขึ้นเรื่อยๆ ควรเข้าพบแพทย์ทันที

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีวิธีดูแลตัวเองและข้อควรระวัง อะไรบ้าง

ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การดูแลผิวปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่เสี่ยงเจออาการข้างเคียงแปลกๆ และยืดระยะการแสดงผลลัพธ์ได้นานขึ้น จะแบ่งได้ 3 ระยะ คือ ระยะหลังฉีดเสร็จทันที ระยะหลังฉีดผ่านไปแล้ว 7-14 วัน และระยะหลังฉีด 1 เดือน

การดูแลหลังฉีดเสร็จทันที

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 ชั่วโมง สามารถแกะพลาสเตอร์ที่ปิดรอยเข็มได้ทันที
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งได้ทันที โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ
  • งดแกะ เกา บีบ หรือเอามือไปสัมผัสบริเวณปาก
  • หลีกเลี่ยงการกินของร้อน เพื่อไม่ให้ผิวปากบวม อักเสบ และเพื่อไม่ไปรบกวนการเซตตัวของฟิลเลอร์
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมง ควรประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการปวด และลดอาการบวม
  • อยู่แต่ในพื้นที่อากาศเย็น และถ่ายเท เพื่อไม่ไปรบกวนให้ผิวปากบวมกว่าปกติ

การดูแลหลังฉีด 7-14 วัน

สามารถทาลิปสติกได้ แต่ไม่ควรกดหรือนวดแรง ๆ ดื่มน้ำเปล่าๆ เยอะๆ เป็นช่วงที่ฟิลเลอร์เริ่มประสานไปกับผิว น้ำจะช่วยในการพยุงตัวของฟิลเลอร์ และช่วยแสดงผลลัพธ์นานขึ้น

การดูแลหลังฉีด 1 เดือน

งดทำเลเซอร์ หรือหัตถการความงามทุกประเภท ที่ทำให้ผิวหน้าหรือบริเวณปากโดนความร้อน
บำรุงผิวปากให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอด้วยลิปมันที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ และมีค่า SPF ป้องกันแสงแดด

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดปาก มีกี่แบบ เลือกฉีดยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี

เพราะบริเวณผิวปาก เป็นผิวบาง และเป็นตำแหน่งที่เกิดการขยับบ่อยมาก ดังนั้นจึงต้องการความยืดหยุ่นสูงมากกว่าส่วนอื่น ดังนั้นเนื้อฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ จะต้องให้ความอิ่มฟู มีความยืดหยุ่นสูงและเนียนไปกับผิว ไม่จับเป็นก้อน ซึ่งฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และเป็นฟิลเลอร์ที่แพทย์แนะนำให้ใช้เพื่อเติมเต็มผิวปาก มีดังนี้

ฟิลเลอร์ Restylane

เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน ผลิตโดยบริษัท Galderma มีลิขสิทธิ์เทคโนโลยี 2 แบบคือ NASHA Technology ที่มีความคงตัวสูง พร้อมๆ กับให้ความชุ่มชื้นกับผิว และ OBT Technology ที่ให้ความหยือดยุ่น ปรับทรงได้หลากหลาย โดยไม่จับเป็นก้อน ซึ่งปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Restylane ได้ผลิตเนื้อฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับเติมเต็มผิวปากโดยเฉพาะ นั่นก็คือ Restylane รุ่น Kysse ที่เนื้อละเอียด ให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม พร้อมๆ กับมีความคงตัวสูง และยังอยู่ได้นานถึง 12 เดือน

แต่รุ่นอื่นๆ ของ ฟิลเลอร์ Restylane ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยเฉพาะการทำให้ชอบปากชัด ยกมุมปากได้ดี จนแพทย์นิยมใช้ ได้แก่ Restylane รุ่น Volyme, Restylane Vital lightและ Restylane รุ่น Refyne

ฟิลเลอร์ Juvederm

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm เป็นฟิลเลอร์ของประเทศอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ที่เป็นสารเลียนแบบสารในร่างกายมนุษย์ โดยรุ่นที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการนำมาฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่ Juvederm รุ่น Volift มีเนื้อฟู นิ่มเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ปากดูอิ่มฟู และ Juvederm รุ่น Vobella มีเนื้อฟิลเลอร์นิ่ม ให้ความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้ดี

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่

สำหรับค่าบริการฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่ละสถานพยาบาลหรือคลินิกจะแตกต่างกัน แต่โดยเฉลี่ยแล้ว จะเริ่มต้นที่ 12,000 บาทเป็นต้น หรือถ้าแบ่งตามยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการนำมาฉีดปากจะมีราคาดังนี้

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ราคาประมาณ 14,000-18,000 บาท / 1 CC
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm 14,000-18,000 บาท / 1 CC

เลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก กับคลินิกไหนดี

ควรเลือกเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปาก กับสถานพยาบาล หรือคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ และควรยึดปัจจัยดังต่อไปนี้ประกอบการเลือกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย ไม่เสี่ยงได้รับอันตรายหรือทำให้ผิวปากเสียโฉม

  • คลินิกต้องสะอาด มีบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง มีการให้บริการที่ดี
  • เลือกสถานพยาบาล / คลินิกเสริมความงาม ที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เช่น มีข้อมูลเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักติดไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน
  • เลือกสถานพยาบาล / คลินิกเสริมความงามที่มีหัตถการเติมเต็มผิวด้วยฟิลเลอร์แท้โดยเฉพาะ และจะต้องเป็นฟิลเลอร์ชนิด สารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic acid) เพราะปลอดภัยต่อผิวมากที่สุด
  • ในสถานพยาบาล/คลินิก จะต้องมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ที่คอยทำหน้าที่ให้คำปรึกษา และลงมือฉีดเองทุกขั้นตอน ตลอดจนติดตามผลลัพธ์ของผู้เข้ารับบริการอยู่ตลอด
  • เป็นคลิกนิกที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ปากจริงๆ และ ได้รับกาฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณืเพื่อให้ปั้นรูปทรงได้สวยงามเป็นธรรมชาติ
  • เลือกฉีดกับคลินิกที่มีราคาสมเหตุสมผล ไม่สูงมากเกินไป และไม่ถูกกว่าคลินิกอื่นจนน่าตกใจ (เพราะอาจใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน)

ดูหลักเกณฑ์การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากอ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ให้ปลอดภัยและได้ผลดี ต้องดูอะไรบ้าง

คำถามที่พบบ่อย

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก ตอนทำเจ็บไหม?

A : ไม่เจ็บ เพราะก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์จะทำการแปะยาชาก่อน หรือสมัยนี้มีฟิลเลอร์ที่ผสมยาชาไว้อยู่แล้ว

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่นานเท่าไหร่ สลายเองได้ไหม?

A : ฟิลเลอร์แท้จะสลายเองได้ ซึ่งอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ปาก จะเฉลี่ยอยู่ที่ 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ และการดูแลรักษา

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว ปากดำคล้ำไหม ?

A : การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้ทำให้ปากดำคล้ำ แต่ช่วยให้สีปากดูกระจ่างใสขึ้นมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์ไม่ได้มีคุณสมบัติลงเม็ดสีผิว แต่เติมเต็มผิวปากให้เต่งตึงมากขึ้น จึงทำให้ผิวปากดูสว่างขึ้นนั่นเอง

รีวิว ฟิลเลอร์ปาก

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันฟิลเลอร์จะเซตตัวสวย เข้าที่สุด?

A : ฟิลเลอร์ปากจะเริ่มเข้าที่ เซตตัวสวยจะเห็นขอบปากชัด ต้องใช้เวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ยังไง?

A : ฟิลเลอร์ปากจับเป็นก้อน เกิดได้หลายสาเหตุ ประการแรกคือ เกิดจากการทำกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ เลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับผิวปาก หรือฉีดลงไปไม่ถึงชั้นผิวอย่างถูกต้อง ก็ทำให้จับเป็นก้อนได้ และอีกประการคือ ฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์ปลอม ที่ส่วนใหญ่จะใช้ซิลิโคนเหลว เมื่อฉีดลงไปแล้วก่อให้เกิดการต่อต้านของผิว ทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนห้อยย้อยตามมาได้

วิธีแก้ หากฉีดฟิลเลอร์แท้ จะแก้ได้โดยการฉีดสารสลายฟิลเลอร์ แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม จะต้องใช้วิธีผ่าตัด หรือขูดออก

แนะนำอ่านเพิ่มเติม

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน แก้ไขได้ไหม? เกิดจากอะไร

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันถึงจะกลับมาทาลิปสติกได้?

A : เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 7 วัน ก็เริ่มกลับมาทาลิปสติกได้แล้ว แต่ควรทาอย่างเบามือ

Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ปากควรงดอาหารอะไรบ้าง?

A : หลังฉีดฟิลเลอร์ปากไปประมาณ 2 สัปดาห์ ควรงดอาหารร้อนจัดและอาหารแสลงทุกชนิด เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, อาหารหมักดอง , อาหารทะเล ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองผิว ซึ่งมีผลให้ผิวปากบวม หายช้า หรืออักเสบได้

Q : ถ้าไม่พอใจผลลัพธ์ จะฉีดสลายฟิลเลอร์ปากได้ไหม?

A : หากฉีดโดยฟิลเลอร์แท้ สารชนิด HA สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ โดยควรเข้าพบแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ให้ เพื่อประเมินการรักษาอย่างถูกวิธี

Q : ปากหนา ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม?

A : หากปากหนา ปากใหญ่ สามารถฉีดฟิลเลอร์เน้นจัดขอบปาก เพื่อปรับรูปทรงให้ดูหวานและชัดขึ้นได้ หรือแก้ปัญหาปากใหญ่ไม่เท่ากันในกรณีที่เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือเคยศัลยกรรมปากมาแล้วเกิดความผิดพลาดมาก่อนได้เช่นกัน

สรุป ฉีดฟิลเลอร์ปาก จะได้ปากทรงไหน เลือกยังไงดี

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ปัญหาข้อบกพร่องของรูปทรงปาก อันเกิดได้จากกรรมพันธ์ อุบัติเหตุ หรือเคยผ่าตัดศัลยกรรมปากมาแล้วเกิดข้อผิลดพลาด และฟิลเลอร์ปากยังช่วยจัดทรงปากให้สวย ตามเทรนด์ความงามได้อยากหลากหลาย ได้แก่ ทรงปากธรรมชาติ (Classy Kysse),ทรงปากกระจับ (Cherry Kysse), ทรงปากอวบอิ่ม (Sexy Kysse), ทรงปากมาสด้า (Cupid’s bow) และในผู้ชายก็สามารถจัดทรงปากด้วยฟิลเลอร์ได้ ซึ่งทรงที่นิยมก็คือ ปากกระจับทรงผู้ชาย (Manly Lip)

ดังนั้นหากกำลังคิดจะฉีดฟิลเลอร์ปาก ก่อนตัดสินใจเลือกทรง ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อปรึกษาปัญหาผิวปาก และทรงที่อยากได้ ว่าทำออกมาแล้วเหมาะกับโครงหน้ามากแค่ไหน และที่สำคัญควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น


ลิสต์อ้างอิง: