ฉีดฟิลเลอร์ปาก
ใครที่มีปัญหาปากบาง ปากแห้ง ทาลิปสติกแล้วตกร่อง หรือ มีปัญหาปากไม่เท่ากัน ต้องการปรับรูปทรงของริมฝีปาก การฉีดฟิลเลอร์ปาก ถือเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถตอบโจทย์ได้ชัดเจน แต่จะเลือกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย และ ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มีอะไรบ้างที่ควรทราบ มาดูกันค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำเข้าไปที่บริเวณริมฝีปาก เพื่อปรับขนาดโครงสร้างปาก และ เพิ่มเนื้อปากให้ดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น นิยมใช้ในการแก้ปัญหาปากแห้ง ปากแตก ปากบน-ล่างไม่เท่ากัน และ ฉีดเลอร์ยกมุมปากเพื่อแก้ปัญหาปากคว่ำที่ทำให้หน้าดูดุ ให้กลับมายิ้มแย้มได้อีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ช่วยแก้ไขปัญหาปากคว่ำ มุมปากตก
- แก้ไขปัญหาริมฝีปากบนและล่างไม่เท่ากัน
- ช่วยแก้ไขปัญหาปากแห้ง ปากลอกเป็นขุย ปากแตก
- ให้ริมฝีปากที่บางดูฟูขึ้น อวบอิ่มขึ้น
- ช่วยแก้ไขรูปทรงปากให้สวยงามตามที่ต้องการ
- ช่วยเติมเต็มให้ผิวบริเวณรอบมุมปากเต่งตึงขึ้น ทางลิปติกแล้วไม่ตกร่อง
ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร?
- เหมาะกับคนที่ปากบนไม่เป็นทรง การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปทรงให้เป็นปากกระจับได้
- เหมาะกับคนที่มีเนื้อปากไม่หนาเกินไป และต้องการปรับแต่งทรงปากให้สวยมากขึ้น
- เหมาะกับคนที่ปากคว่ำ หน้าดุ ต้องการยกมุมปากขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูหวานขึ้น
- เหมาะกับคนที่ปากไม่เท่ากัน หรือ คนที่เคยผ่าตัดปากมาก่อน
- เหมาะกับคนที่ อยากปรับรูปทรงปากโดยไม่ต้องผ่าตัดเนื่องจากไม่มีเวลาพักฟื้น
- เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการทำ
ฉีดฟิลเลอร์ปากมีกี่ทรง แบบไหนนิยมสุด

เทรนปากสุดฮิตตอนนี้ จะมี 3 รูปทรง ซึ่งแต่ละทรงจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่
ทรงปากกระจับ
จะมีจุดเด่นคือ ริมฝีปากทั้งส่วนบนและส่วนล่างได้รูปสวยงามดูสมดุลเข้ากันกับใบหน้า รูปทรงคล้ายผลกระจับ หรือ ปากบนมีลักษณะโค้งเรียวสวย แต่บางคนอาจเรียกปากทรงนี้ว่าปากปีกนกเพราะมุมปากกระจับจะเรียวและยกขึ้นคล้ายปีกนก เป็นรูปที่ดูเป็นธรรมชาติ สมดุลกันทั้งปากบนและปากล่างดังสัดส่วนต่อไปนี้
- ขนาดของริมฝีปากบน : ล่าง มีสัดเหมาะสม คือ 1:1.6-1.8
- ร่องริมฝีปากบนมีขอบหยักเป็นรูปตัว M ชัดเจน ดูมีมิติ คมชัด
- มุมปากทั้งสองข้างดูยกขึ้น มุมปากไม่ตก
- เนื้อริมฝีปากล่างต้องไม่ใหญ่เกินยอดของรอยหยักตัว M ของริมฝีปากบน
- ขอบปากมีสัดส่วนเท่ากันทั้ง 2 ข้าง
- เมื่อลากเส้นจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างแล้วจะแตะเส้นนี้พอดี และริมฝีปากบนควรจะห่างจากเส้นนี้ 2 mm
- เนื้อปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง ไม่มีริ้วรอย
ทรงปากสายฝอ
เป็นปากที่มีลักษณะให้ความอวบอิ่ม เซ็กซี่ โดย จะเน้นให้ริมฝีปากล่างดูอวบอิ่มและริมฝีปากบนดูเจ่อเล็กน้อย เป็นรูปทรงปากแบบฝรั่ง หรือที่หลายคนเรียกว่าสายฝอ ซึ่งกำลังมาแรงตามกระแสดาราในขณะนี้นั่นเอง แต่สำหรับคนเอเชียแล้วขอแนะนำให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์สัดส่วนใบหน้าก่อนนะคะว่าเข้ากับใบหน้าหรือไม่
ทรงปากสายเกาหลี
รูปทรงของปากสายเกา จะมีจุดเด่นคือมีลักษณะของเหมือนลูกเชอร์รี 2 ลูก มาประกบกันอยู่ตรงกลางริมฝีปาก จึงได้ฉายาว่า Cherry Lips โดยช่วงกลางของริมฝีปากบน และ ช่วงกลางของริมฝีปากล่าง จะมีความอวบอิ่มกว่าปากด้านล่าง ซึ่งรูปปากทรงนี้จะทำให้หน้าดูเด็ก และ ริมฝีปากน่าจุ๊บอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม

เนื่องจากสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก Hyaluronic Acid (HA) แท้ สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ 100% จึงให้ความปลอดภัยที่สูง และการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยใช้เทคนิคที่ถูกต้องจะช่วยให้ การฉีดฟิลเลอร์ปากมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม
การฉีดฟิลเลอร์ปากในปัจจุบัน ถือเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมมาก ทำให้มีหลายคลินิกทำโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ปากในราคาถูก ซึ่งจะต้องทำการสอบถามให้ละเอียดก่อนว่าเป็นเลอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ผ่านอย. หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆที่เกิดจากฟิลเลอร์ปลอม เช่น
- มีอาการอักเสบ ติดเชื้อรุนแรงจนอาจเกิดอาการปากเน่าได้
- เสี่ยงต่อการไหลย้อย บวมเป็นก้อน ไม่สลายไปตามธรรมชาติ จนทำให้ปากผิดรูป โดยไม่สามารถแก้ไขได้
- เสี่ยงต่อเนื้อเยื่อถูกทำลาย เนื้อตาย ตาบอด
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย
- สังเกตได้จากฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่อง มีวันหมดอายุระบุอยู่ข้างกล่อง และ มีราคาระบุ ไว้อย่างชัดเจน
- มีเลข Lot.ที่สามารถตรวจสอบได้ และ แกะยากล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง
- ห้ามซื้อฟิลเลอร์จากอินเตอร์เน็ต เพราะอาจเป็นของปลอม เนื่องจากฟิลเลอร์ของแท้จะมีแพทย์เท่านั้นที่สามารถสั่งซื้อได้
ข้อระวังในการฉีดฟิลเลอร์ปากมีอะไรบ้าง
- เนื่องจากริมฝีปากประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการฉีดดังนั้นแพทย์จำเป็นต้องมีประสบการณ์ที่สูง
- ในกรณีที่คนไข้เคยผ่าตัดริมฝีปากมากก่อนแนะนำให้แจ้งกับแพทย์ก่อน เนื่องจากเส้นเลือดบางส่วนอาจโดนรอยแผลที่เป็นพังผืดปิดกั้น ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการฉีดมากขึ้น
ฟิลเลอร์ปาก VS ผ่าตัดปาก มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ปากและการผ่าตัดปาก จะมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เช่น
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก
จะเน้นเพิ่มความอวบอิ่ม เหมาะกับคนที่ริมฝีปากบางไม่เป็นทรง และ คนที่มีปัญหาปากแห้ง แต่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวรเพราะฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น - การผ่าตัดปาก
มีข้อดีคือให้ผลลัพธ์ที่ถาวรเหมาะกับคนที่มีริมฝีปากหนาไม่เป็นรูปทรง แต่การผ่าตัดอาจต้องมีระยะเวลาในการพักฟื้น และ หากเกิดข้อผิดพลาดอาจทำการแก้ไขได้ยาก
ผ่าตัดทำปากบางมาแล้วบางเกินไป เติมฟิลเลอร์ปากแก้ได้ไหม?
หากคนไข้เคยผ่าตัดปากมาแล้วรู้สึกว่าบางเกินไป หรือ ริมฝีปากไม่เท่ากัน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับให้รูปปากที่ดูสมดุลและอิ่มฟูขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเพราะถ้าหากมีเนื้อน้อยมากจนเกินไปก็ไม่สามารถเติมฟิลเลอร์แก้ได้ และ ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีใดๆได้เลย ดังนั้นก่อนที่จะผ่าตัดริมฝีปากควรศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน
ฟิลเลอร์ปากสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน?
โดยปกติแล้วหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์ที่ใช้และ การดูแลตัวเองหลังฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ปากต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่

การฉีดฟิลเลอร์ปากประจับและปากสายเกา จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพียง 1 CC ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนได้ แต่หากคนไข้อยากได้รูปปากที่อวบอิ่มแบบสายฝอ คุณหมอก็อาจจะพิจารณาฉีดฟิลเลอร์ปากให้ 2 CC ตามความเหมาะสมแบบเคสต่อเคส
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากจะได้รับการแปะยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บในขณะที่เข็มจิ้มลงบนริมฝีปาก ซึ่งในขณะที่อาจมีความรู้สึกเจ็บ และ ตึงๆเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับเจ็บมากจนทนไม่ไหว เพราะในฟิลเลอร์จะมีส่วนผสมของยาชาอยู่
ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ฉีดปากที่คลินิกแนะนำและนิยมใช้ คือ restylane, Juvederm, และ Vobella ยี่ห้อจูวีเดิร์ม ( รุ่น Allergan ) เนื่องจากมีค่าคงตัวสูง สามารถปั้นทรงได้ง่าย ให้ความเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเป็นก้อน และสามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 18 เดือน สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากจะใช้จำนวน 1 ซีซี ราคา 8,623 บาท
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์มีข้อที่ควรปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง และ อาการบวมช้ำหนักดังนี้
- ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงว่ามีรูปทรงสวยงามตามที่ต้องการหรือไม่ มีปัญหาหลังการฉีดไหม
- งดการทานยาและวิตามินบางชนิด ได้แก่ ยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac, Ponstan , St.John’s Wort, Garlic, Ginseng Ginko Biloba, Primrose Oil, และ Vitamin E อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีด
- ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
- งดการใช้หลอดดูดน้ำ งดสูบบุหรี่ และงดการทาลิปสติก หลังการฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำมาก ๆ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการทานของร้อน เพราะจะทำให้ปากมีอาการบวม
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
- เกิดจากการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หรือฉีดในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป
- เลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด เช่น ฉีดเนื้อแข็งที่ริมฝีปากซึ่งเป็นบริเวณที่ต้องขยับมาก
- ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือ ซิลิโคนเหลว ในการฉีด ซึ่งอันตรายมากเพราะ เสี่ยงต่อการอักเสบและทำให้ปากเน่าได้
แนะนำอ่านเพิ่มเติม
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน แก้ไขได้ไหม? เกิดจากอะไร
ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันเข้าที่ ?
หลังการฉีดฟิลเลอร์ปากและวมีอาการบวมถือเป็นเรื่องปกติ เริ่มจากริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีผิวหนังค่อนข้างบาง จึงทำให้เกิดการบวมเข็มได้ง่าย แต่อาการบวมเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปใน 4-5 วัน และ ปากจะเข้าที่ชัดเจนใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์

ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี
- อย่างแรกการฉีดฟิลเลอร์จะต้องเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต่องตามกฎหมาย มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักติดไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน
- คลินิกต้องสะอาด มีบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง มีการให้บริการที่ดี
- คลิกนิกมีรีวิวจากผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ปากจริงๆ และ ได้รับกาฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณืเพื่อให้ปั้นรูปทรงได้สวยงามเป็นธรรมชาติ
- เลือกฉีดกับคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่าน องย. ไทย เท่านั้น
- เลือกฉีดกับคลินิกที่มีราคาสมเหตุสมผล ไม่สูงมากเกินไป และไม่ถูกกว่าคลินิกอื่นจนน่าตกใจ (เพราะอาจใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน)
สรุป
สำหรับผู้ที่มีความสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เลือกฉีดในคลินิกที่มีมาตรฐาน โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic Acid ของแท้เท่านั้น และ ไม่เห็นแก่ของที่มีราคาถูกเกินไปเพราะอาจทำให้ได้รับฟิลเลอร์ปลอม ที่มีอันตราย และส่งผสในระยะยาวที่แก้ไขได้ยาก