ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันหายบวม ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง? เพื่อให้ปากฟิลเลอร์อยู่ได้นาน

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แถมไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็ยังมีข้อสงสัยสำหรับผู้เช้ารับบริการไม่น้อยว่า ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันหายบวม ใช้เวลานานหรือเปล่า เป็นอาการบวมปกติที่เกิดขึ้นหลังฉีด หรือว่าฉีดฟิลเลอร์หรือไม่ บวมแบบไหนถึงเรียกว่าอันตราย วันนี้มีคำตอบ รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้หายบวม สวยเข้าที่เร็ว และให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันหายบวม

สิ่งที่สร้างความกังวลใจให้ผู้ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ถือเป็นอาการที่พบได้เป็นปกติ เพราะบริเวณปาก เป็นตำแหน่งที่บอบบาง และไวต่อการถูกสัมผัส ฉะนั้นจึงเกิดอาการบวมเข็มหลังเข้ารับบริการได้ และจะหายบวมเป็นปกติประมาณ 4-5 วันหลังฉีด ส่วนฟิลเลอร์จะค่อยๆ เข้าที่ต้องใช้เวลาประมาณ 1- 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้หายบวมไวขึ้น

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จทันที ผู้เข้ารับบริการสามารถดูแลตัวเองเพื่อลดอาการบวมเข็มให้หายไวขึ้น อีกทั้งยังสามารถปฎิบัติตัวเองให้ฟิลเลอร์คงผลลัพธ์ได้นานขึ้นอีกด้วย โดยมีวิธีการง่ายๆ สามารถทำได้เองดังนี้

กินยาตามที่แพทย์สั่งให้หมดตามกำหนด

เพื่อให้อาการบวมเข็มจากการฉีดฟิลเลอร์ปากหายไวขึ้น หลังเข้ารับบริการแพทย์จะมียาบรรเทาอาการปวด และลดการอักเสบมาให้ ดังนั้นผู้เข้ารับบริการควรกินให้ตรงเวลาตามกำหนด

ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ในปริมาณ 1.5 – 2 ลิตร

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จทันที ผู้เข้ารับบริการสามารถดื่มน้ำเปล่า ต่อ 1 วัน ในปริมาณมาก 1.5-2 ลิตร เพื่อเสริมการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ อันเป็นผลให้ริมฝีปากอิ่มฟู และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น

นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ

เพราะในขณะที่เราหลับ ร่างกายจะเข้าสู่โหมดซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แน่นอนว่า บริเวณที่บวมจากเข็มฉีดฟิลเลอร์ปาก จะค่อยๆ หายได้เอง และยุบจนเป็นปกติได้ไวยิ่งขึ้น

นอนยกหัวสูงกว่าระดับหน้าอก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ประมาณ 3-4 วันแรกให้ปรับท่านอนจากการนอนราบปกติ ให้ปรับระดับหมอนสูงขึ้นกว่าระดับหน้าอก เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่กำลังเซตตัวไม่เคลื่อนที่ไปตำแหน่งอื่น

นอนหงายหลังเท่านั้น

ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากจะนอนยกหัวสูงกว่าระดับหน้าอกแล้ว ยังต้องนอนในลักษณะหงายหลังอย่างเดียวเท่านั้น งดการนอนตะแคง ที่อาจเกิดการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จะรู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่แค่อาการบวมปกติ

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แน่นอนว่าอาจมีอาการบวมเข็ม เป็นอาการปกติ ที่สามารถหายได้เอง 4-5 วันหลังเข้ารับบริการ แต่หากผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปสักระยะหนึ่งแล้ว อาการบวมก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุบลง หรืออาจมีอาการบวมมากขึ้นกว่าเดิม ให้คอยสังเกตุอาการตัวเองอย่างละเอียด เพราะอาจจะเข้าข่ายผลค้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ได้ แม้ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ก็ตาม

อาการฟิลเลอร์เป็นก้อน เป็นอย่างไร

  • ผู้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปากมาได้สักระยะหนึ่งแล้วอาการบวมไม่หายเสียที ซึ่งจะแสดงอาการดังต่อไปนี้
  • บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จะเป็นก้อน เป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ผ่านระยะการบวม แต่บริเวณริมฝีปากดูแข็งตึง ไม่เป็นธรรมชาติ
  • ฟิลเลอร์ทำให้ปากผิดรูป ไม่สวย ไม่สมดุลกับใบหน้า

อาการฟิลเลอร์อักเสบ ติดเชื้อ

  • หลังเข้ารับการฟิลเลอร์ปาก เมื่อพ้นระยะเวลาการบวมแล้ว แต่ไม่ยุบ อีกทั้งยังมีอาการไม่พึงประสงค์ดังต่อไปนี้ร่วมด้วย อาจจะบ่งบอกได้ว่า เกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้
  • พบอาการบวมขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะยุบลง
  • มีอาการปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากกว่าปกติ
  • สีผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แดง และคล้ำขึ้นเรื่อยๆ
  • แสบ ร้อนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และจะรู้สึกมากขึ้นทันทีเมื่อเอามือไปสัมผัส

อาการแพ้ฟิลเลอร์

อีกหนึ่งอาการอันตรายของผู้ที่เข้ารับบริการฟิลเลอร์ปากที่เกิดขึ้นแม้ฟิลเลอร์ที่ฉีดจะเป็นของแท้ โดยอาการแพ้ฟิลเลอร์มีดังนี้

  • อาการบวม แดง ร่วมกับมีอาการปวดรุนแรงบริเวณที่ฉีดฟิลเอร์
  • ร้อน แสบ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • มีตุ่มหรือผื่นขึ้น หรืออาจรุนแรงขึ้นจนเกิดเป็นลมพิษ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • อาจเกิดเป็นตุ่มหนองขึ้นได้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม?

ไม่อันตรายเลยสักนิด เพราะการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะต้องฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าโดยปกติของสถานที่คลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานหรือแพทย์ศัลยกรรมที่เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์ จะเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ หรือสารชนิด Hyaluronic acid ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยจาก อย.ในการทำหัตถการให้กับผู้เข้ารับบริการอยู่แล้ว ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปาก จึงปลอดภัยในระยะสั้น และในระยะยาว

ตรงกันข้าม หากผู้เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปาก ด้วยฟิลเลอร์ปลอม หรือสารชนิดสลายเองไม่ได้ ย่อมส่งผลอันตรายต่อผิวหนัง อาจจะเกิดอาการติดเชื้อ แพ้สารบางชนิดจากฟิลเลอร์ปลอม และหากเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเลือกใช้เครื่องมือที่ไร้คุณภาพ และไม่สะอาด ก็เกิดอันตรายได้เช่นกัน

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากจะได้รับความนิยมมากจนอาจเป็นพื้นฐานการเสริมริมฝีปากสวย-หล่อของหนุ่ม สาวในยุคนี้กันไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์ปากเสี่ยงเป็นมะเร็ง?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เอชเอ (HA) เป็นสารที่ย่อยสลายได้เอง ไปบริเวณริมฝีปาก หรือมุมปากที่ต้องการเติมเต็ม จึงไม่ทำให้เกิดมะเร็ง เพราะไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆ เอาไว้ใต้ผิวหนัง

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เสี่ยงปากเน่า?

การฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยฟิลเลอร์แท้ ไม่เสี่ยงทำให้ปากเน่าแน่นอน แต่หากเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่มาจากการเลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม สารเติมเต็มที่ไม่ได้รับรองความปลอดภัยจาก อย. รวมถึงขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ และเครื่องมือไม่สะอาด ย่อมทำให้ผิวอักเสบ ติดเชื้อได้

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปากอวบอิ่ม แล้วจะได้แค่เทรนด์สายฝอเท่านั้น?

หลายคนยังเข้าใจผิด คิดว่าการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะให้ผลลัพธ์แค่การเติมเต็มให้ปากอวบอิ่มฟู ตามเทรนด์ความงามของชาวตะวันตกเพียงเท่านั้น แต่ความเป็นจริงการฉีดฟิลเลอร์ปาก ยังช่วยได้ในหลายปัญหาดังนี้

  • แก้ปัญหาปากบาง ในผู้ที่มีริมฝีปากบางมาก จนทำให้ใบหน้าขาดมิติ
  • แก้ปัญหาร่องปาก ในผู้ที่ริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก เนื่องจากผิวขาดคอลลาเจน หรืออายุที่เพิ่มขึ้น
  • ยกมุมปาก ให้กับผู้ที่มีปัญหาปากงุ้ม มุมปากตก ทำให้หน้าดูเศร้าหมอง
  • บำรุุงปากถึงผิวชั้นลึก ทำให้ผิวปากอวบอิ่ม ชุ่มชื่น เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และฟิลเลอร์ยังมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ

ข้อควรระวังก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อไม่เกิดอาการบวมที่เป็นอันตราย

การฉีดฟิลเลอร์ปากแม้ว่าจะเป็นวิธีหัตถการที่ไม่เจ็บตัว ไม่เกิดแผล ให้ผลลัพธ์ไวและไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็มีข้อควรระวังที่ผู้เข้ารับบริการจะต้องคำนึงถึง และควรปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ปลอดภัยสูงสุด ได้รับประสิทธิภาพของฟิลเลอร์และเพื่อฟิลเลอร์คงผลลัพธ์อยู่กับเราได้นานขึ้น

ข้อควรระวังก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

ศึกษาข้อมูลฟิลเลอร์แท้ ว่าดูอย่างไร

ผลข้างเคียงอันตราย อันดับแรกๆ ของการฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็คือการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ดังนั้นการรู้ว่าอันไหนฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม จะช่วยให้ไม่โดนหลอก และไม่เสี่ยงได้ผลลัพธ์แย่ๆ ซึ่งการดูฟิลเลอร์แท้ ดูได้จากกล่องฟิลเลอร์ดังนี้

  • เลขทะเบียนอย. ที่กล่อง
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข lot ที่กล่อง ซองสติกเกอร์ หรือหลอดตรงกัน
  • สามารถนำเลข lot โทรเช็กกับบริษัทนำเข้าได้

เลือกสถานที่/คลินิก/ที่ได้มาตรฐาน

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และปลอดภัยโดยดูได้จากข้อมูลเหล่านี้

มีรีวิวจากลูกค้าเยอะไหม?

มีรางวัลการันตีทั้งของคลินิกเอง และแพทย์ที่ประจำคลินิกนั้นๆ มากน้อยแค่ไหน ร
การเลือกใช้ฟิลเลอร์ของคลินิกนั้นๆ เลือกของแท้หรือไม่ มีให้เลือกกี่แบบ ฟิลเลอร์นั้นๆ เหมาะกับเรามากน้อยแค่ไหน

บุคคลเหล่านี้ห้ามฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์มีข้อจำกัดในกลุ่มคนเหล่านี้ ที่ไม่แนะนำให้ฉีด ฉะนั้นแล้วหากใครแพลนว่ากำลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นบุคคลกลุ่มนี้หรือไม่ ถ้าใช่ หรือเข้าข่าย ควรงดเข้ารับบริการทันที

ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic ไฮยาลูรอนิก แอซิด

  • คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
  • ผู้ที่กำลังเป็นเริม หรือ งูสวัด เพราะอาจทำให้เกิดอาการกำเริบขึ้นได้
  • ผู้ที่เลือดออกง่าย ฟกช้ำง่าย หรือผู้ที่เลือดไหลช้า

ดูแลผิวหนังบริเวณปากให้พร้อม

ก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้ดูแลผิวบริเวณริมฝีปากให้ปกติที่สุด ไม่เป็นแผล ไม่แตกแห้ง เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเติมสารเติมเต็มโดยไม่มีความระคายเคืองเพิ่ม

งดทานวิตามินก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก 2 สัปดาห์

โดยเฉพาะวิตามินประเภท กระเทียม ขิง ใบแปะก๊วย โสม กลุ่มน้ำมันที่เป็นโอเมก้า-3 เพราะจะทำให้เลือดแข็งตัวช้า

ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณริมฝีปากที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จทันที ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสแรงๆ บริเวณริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็นการกด บีบ นวด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว หรืออาจเกิดฟิลเลอร์รวมตัวและเป็นก้อนได้

หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่หรือกิจกรรมที่มีอุณหภูมิสูงหรือร้อน

เพราะการอยู่ในสภาพอากาศร้อน หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จะทำให้อารเจ็บ บวมเข็มเป็นมากกว่าปกติ รวมถึงฟิลเลอร์ที่กำลังเซตตัว แสดงผลลัพธ์ไม่เต็มที่ คลาดเคลื่อนได้ โดยสถานที่และกิจกรรมดังกล่าวมีดังนี้
ซาวน่า

  • กินปิ้งย่าง หมูกระทะ ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
  • ออกกำลังกายอย่างหนัก จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกาย
  • อบไอน้ำผม
  • เลเซอร์บริเวณผิวหน้า
  • งดกินอาหารบางประเภทที่ส่งผลการบวม และอักเสบของผิวปาก
  • อาหารและเครื่องดื่ม ที่ไปทำให้เกิดการระคายเคืองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้
  • อาหารหมักดอง
  • อาหารรสจัด
  • เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด

สรุป

อาการบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ปกติ ไม่อันตราย และสามารถหายได้เอง ดังนั้นผู้ที่เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปากจากคลินิก ที่มีมาตรฐานก็สามารถมั่นใจในผลลัพธ์ที่สวย ปลอดภัย เพราะเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น และฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องฟิลเลอร์โดยเฉพาะ

สำหรับผู้ที่ต้องการแหล่งที่มาและอ่านข้อมูลเพิ่มเติม https://www.springnews.co.th/blogs/lifestyle/828905