เลเซอร์หน้าใส
ปัญหาผิวของวัยที่อายุมากขึ้น และการเผชิญมลภาวะต่างๆ ทำให้ผิวต้องพบเจอกับปัญหาผิวหยาบกร้าน ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ ริ้วรอย ซึ่งทำให้สาวๆหลายคนเริ่มมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะมาแนะนำการคืนสภาพผิวสุขภาพดีด้วยการเลเซอร์หน้าใส ที่สามารถช่วยปรับสภาพผิวให้สดใสขึ้น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยฟื้นฟูบำรุงให้ผิวดูสดใส กระชับ ฉ่ำน้ำ ดูมีออร่าขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
เลเซอร์หน้าใส คืออะไร?
การทำเลเซอร์หน้าใส คือ การยิงเลเซอร์เพื่อช่วยย่นระยะเวลาการผลัดเซลล์เม็ดสีเมลานินเก่าออกแล้วสร้างเซลล์ผิวส่วนใหม่ขึ้นมาทดแทนให้ได้เร็วมากที่สุด โดยการใช้เลเซอร์หน้าใสเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดการหมองคล้ำ ดูไม่สดใส ช่วยให้ผิวกลับมาฟูเด้ง กระจ่างใส ดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น
สาเหตุของผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดจากอะไร?
1.แสงแดด คือตัวการที่ทำร้ายผิวทำให้ผิวหน้าเกิดความหมองคล้ำ หยาบกร้าน และมีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำตามมาอีกด้วย
2.สภาพอากาศ เมื่ออยู่ในอากาศเย็นเป็นเวลานานๆอากาศจะดูดซับความชุ่มชื้นไปจากผิว จะส่งผลให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุยและทำให้ผิวหมองคล้ำได้
3.ความเครียด ที่เกิดจากการสะสมของความเหนื่อยล้าต่างๆจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเกิดการหมองคล้ำขึ้นได้
4.การดื่มน้ำน้อย ส่งผลให้ร่างกายมีการขาดน้ำ ทำให้ผิวหนังแห้ง และดูหมองคล้ำขึ้นได้
5.การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหนังเกิดการหมองคล้ำขึ้นได้ เพราะร่างกายมีการขาดแร่ธาตุและทำให้การไหลเวียงของเลือดผิดปกติกว่าเดิม
เลเซอร์หน้าใส ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.ช่วยทำให้รอยแตกลายดูจางลง และ ช่วยรักษาติ่งเนื้อ ไฝ เนื้องอกหรือ หูดให้เล็กลงได้
2.ช่วยบำรุงฟื้นฟูให้ผิวหนังบนใบหน้า ดูสดใส แข็งแรงและขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
3.ช่วยลดเลือน ฝ้า กระ และลดริ้วรอยได้ทั่วผิวบนใบหน้า
4.ช่วยลดเลือน จุดด่างดำและลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวได้
5.ช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแดงจากสิว และรอยปานแดงได้อีกด้วย
การทำเลเซอร์หน้าใส มีกี่แบบ มีข้อดีข้องเสียอะไรบ้าง?
Q-Switched Laser
เป็นเลเซอร์ที่มีหลักการปล่อยคลื่นพลังงานลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงและ มีความหนาแน่นสูงในระยะเวลาปล่อยลำแสงในช่วงที่สั้นมากๆ ซึ่งจะมีผลทำลายเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในชั้นตื้น ซึ่งเหมาะกับการการรักษา กระแดด กระตื้น และ ฝ้าตื้น เป็นต้น
ข้อเสีย ระหว่างทำ คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บเหมือนโดนเข็มจิ้มเบาๆ แต่แพทย์จะให้ยาชาเพื่อลดอาการเจ็บ ให้ก่อนทำเสมอ บางคนอาจมีอาการแสบร้อนในบริเวณที่ทำได้
Fractional Co2 Laser
เป็นเลเซอร์ที่สามารถเปลี่ยนผิวใหม่โดยการกำจัดผิวเดิมออกด้วยใช้ลำแสงเลเซอร์ที่มีขนาดเล็กมากและที่มีระบบ Scanner เพื่อทำให้มีความแม่นยำสูงในการปล่อยพลังงานลำแสงลงไปได้ลึกถึงระดับที่มีความต้องการ ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน นุ่ม และใสขึ้นขึ้น ลดรอยดำให้จางลง รวมถึงลดรอยแดงลงได้ อีกทั้งยังช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นอีกด้วย
ข้อเสีย อาจทำให้ผิวชั้นนอกบางลง และไม่แข็งแรง บางรายอาจทำให้ผิวหนังเกิดรอยไหม้ได้ในขณะทำ คนไข้อาจรู้สึกเจ็บได้บางเล็กน้อย หลังทำอาจมีอาการบวมแดง รวมถึงอาการคันด้วย
E-Matrix Laser
เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Fractional Radiofrequency หรือเป็นคลื่นวิทยุที่ลงแบบแบ่งส่วน ปัจจุบัน จึงนิยมนำมาใช้ปรับสภาพผิวเพื่อช่วยรักษา รอยแผลเป็น รอยหลุมสิว ลดริ้วรอย ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น
ข้อเสีย : หลังการรักษาอาจเกิดอาการบวม แดง เจ็บเล็กน้อย และอาจมีตุ่มน้ำหรือสะเก็ดหลังทำ บางรายอาจมีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีที่ผิดปกติ
IPL laser (ย่อมาจาก Intense pulse light)
เป็นเลเซอร์ทีมีช่วงคลื่นแสงกว้าง มีความยาวคลื่นเริ่มตั้งแต่ 420 นาโนเมตร ถึง 1,200 นาโนเมตร ช่วยรักษาปัญหาผิวหน้าได้ครอบคลุม เช่น ลดริ้วรอย ลดฝ้า ลดกระ ลดจุดด่างดำ และลดรอยแดงต่าง ๆได้
ข้อเสีย : หลังทำอาจมีสีผิวแดงขึ้นและรู้สึกปวดเล็กน้อย
บางรายอาจมีผิวไหม้ได้เล็กน้อย รวมถึงมรรอยแดง ผิวลอก และบวม มีตุ่มน้ำใส ๆ มีสีผิวคล้ำหรือซีดกว่าสีผิวปกติ มีขนหลุดร่วง และมีรอยช้ำได้
Dual Yellow Laser
เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีอยู่2 สีด้วยกัน มีสีเหลืองและสีเขียงที่มีความยาวคลื่น 511 -578 nm. ส่งตรงไปยังผิวหนังใต้ชั้นลึก เพื่อช่วยรักษาความผิดปกติของเม็ดสีที่มีส่วนเกินในชั้นบนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดจุดด่างดำให้จางลง รวมไปถึงบดกระ ฝ้าและลดความหมองคล้ำของผิวให้ดีขึ้น
ข้อเสีย : ไม่ควรทำกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือมีภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง รวมถึงผู้ที่มีการฉายรังสีที่ใบหน้า หรือเป็นแผลคีลอยด์ ที่สำคัญ และสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ไม่ควรเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้
เลเซอร์หน้าใส เว้นกี่วัน ต้องทำบ่อยไหม?
ควรทำห่างกันทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยทั่วไปหลังการรักษาเพียงครั้งแรกจะรู้สึกได้ว่า มีผิวที่เรียบเนียนเต่งตึงมากขึ้น รูขุมขนกระชับ รอยดำ รอยแดงจากสิวดูจางลง และควรทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 4 – 6 ครั้ง เพื่อให้ได้สภาพผิวที่ดีขึ้น
เลเซอร์หน้าใสด้วย Dual Yellow Laser ทำให้ผิวบางไหม
หลายๆคนมีความกังวลใจมากว่าการเลเซอร์หน้าใสบ่อยๆ อาจทำให้ผิวหน้าโดนความร้อนมากเกินไป จึงอาจทำให้ผิวบางลงมีผลเสียต่อผิวในระยะยาวได้ แต่ความจริงแล้วการเลเซอร์หน้าใสมีการพัฒนาพลังงานที่อ่อนโยนต่อผิว จึงไม่ทำให้ผิวหน้าบางได้ง่าย
การเลเซอร์หน้าใสด้วย Dual Yellow Laser มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร?
ข้อดีของการเลเซอร์หน้าใสด้วย Dual Yellow Laser
- ช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิว
- ช่วยลดรอยดำที่เกิดจากรอยแผลเป็น
- ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้า
- ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
- ช่วยปรับสภาพผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ให้ขาวกระจ่างใสขึ้นได้
ข้อเสียของการเลเซอร์หน้าใสด้วย Dual Yellow Laser
- ได้เลเซอร์บางชนิดอาจทำให้ผิวอาจไวต่อแสงมากขึ้น
- อาจมีอาการอักเสบระคายเคือง หรือมีแผลตกสะเก็ดในช่วงแรกของการทำเลเซอร์
- อาจมีผื่นแดงเกิดขึ้นได้ แต่จะหายไปได้เองใน 1-2 วัน
เลเซอร์หน้าใสเจ็บไหม?
ก่อนหัตถการแพทย์จะมีการทาชาให้คนไข้ก่อนทุกครั้งระหว่างทำคนไข้อาจรู้สึกเหมือนมีเข็มมาจิ้มเบา ๆ ที่ผิวเท่านั้น แต่จะไม่รู้สึกเจ็บมาก เพราะแพทย์จะมีการประคบเจลเย็นอยู่ตลอดเวลา จึงสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บได้
หยุดทำเลเซอร์หน้าใสแล้วผิวจะกลับสู่สภาพเดิมหรือไม่?
การเลเซอร์หน้าใสเป็นการช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ช่วยลบริ้วรอย จุดด่างดำ กระฝ้า ช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากสิว และ ลดการเกิดสิว ผลัดเซลล์ผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้อีกทั้งยังทำให้ผิวขาวกระจ่างใสมากขึ้น แต่หากมีการหยุดทำเป็นเวลานานอาจส่งผลให้ผิวกลับสู่สภาพเดิมได้อีกครั้ง
เลเซอร์หน้าใสด้วย Dual Yellow Laser กี่ครั้งถึงเห็นผล?
โดยปกติการทำเลเซอร์หน้าใสจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะมีการแนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 4 – 6 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้ผู้รับการรักษาสามารถรู้สึกได้ว่ามีผิวใสและนุ่มเนียนขึ้น การปรับสภาพผิวขึ้นอยู่กลับสีผิวของแต่ละบุคคลร่วมด้วย
อายุกี่ปีขึ้นไปถึงทำเลเซอร์หน้าใสได้?
การเลเซอร์หน้าใสสามารถทำได้ตั้งแต่อายุเข้าช่วงวัยรุ่น เพียงแต่ว่าหากยังมีอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ แต่ต้องการทำหัตถการต่างๆ จึงจะต้องมีผู้ปกครองมาเซ็นต์เพื่อยินยอมรับการรักษาด้วยทุกครั้งก่อนหัตถการ
ทำไมเลเซอร์หน้าใสแล้วไม่เห็นผล
อาจเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องเลเซอร์ที่ไม่มีมาตรฐาน เพราะลำแสงไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา และเครื่องเลเซอร์ไม่สามารถปรับระดับได้ จึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการรักษาอาจทำให้เกิดผื่นแดง และอาจเกิดอาการคันได้อย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น
หลังทำเลเซอร์หน้าใสแล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
- มีอาการบวมแดง ประมาณ 2 สัปดาห์
- มีสะเก็ดจะหลุดลอกออกหมดภายใน 2 สัปดาห์
- อาจมีน้ำเหลืองซึม ประมาณ 2 สัปดาห์
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หน้าใส?
1.ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่ามีความพร้อมเข้าทำการเลเซอร์หรือไม่
2.งดทานยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินอี เพราะจะทำให้เลือดหยุดยาก ประมาณ 2 สัปดาห์
3.งดออกแดดจัด ประมาณ 2 เดือน เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการแสบร้อนง่ายระหว่างหัตถการ
4.งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ประมาณ 1 สัปดาห์เพราะจะทำให้ร่างกายมีการฟื้นตัวช้ามากกว่าปกติ
5.งดการนวดหน้าหรือการแว็กซ์ประมาณ 2สัปดาห์เพื่อไม่ให้ผิวหน้าบางลงง่าย
มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรหลังทำเลเซอร์หน้าใส?
1.ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากๆประมาณ 8 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด อย่างน้อย 2 เดือน เพื่อให้เซลล์ผิวมีการผบัดตัวได้ไวมากขึ้น
3.ควรทายาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครั่ง เพื่อช่วยให้สภาพผิวชื้นคัวได้อย่างรวดเร็ว
4.หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดที่ส่งผลต่อผิวหน้าโดยตรง เพื่อช่วยให้คงประสิทธิภาพที่ดีเอาไว้ได้นานที่สุด
5.ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้เลือดได้ไหลเวียนตามปกติ
เลือกทำเลเซอร์หน้าใสที่ไหนดี?
1.เลือกคลินิก ที่มีการใช้เครื่องเลเซอร์แท้ เพื่อรักษาให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด
2.เลือกคลินิก ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญการในการใช้เครื่องเลเซอร์ได้อย่างแม่นยำ
3.เลือกคลินิก ที่มีการแจ้งราคาอย่างสมเหตุสมผลไว้อย่างชัดเจนทุกครั้ง
4.เลือกคลินิก ที่มีการรีวิวจริงและพร้อมให้บริการในทุกๆด้านของการเสริมความงาม
5.เลือกคลินิก ที่ใส่ใจดูแลความสะอาดในทุกๆขั้นตอนและพร้อมให้คำปรึกษาได้ทุกช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง
สรุป
การเลเซอร์หน้าใสด้วย Dual Yellow Laser เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาผิวบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี โดยแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม เช่น ช่วยลดฝ้า กระ รอยดำ รอยแดง พร้อมกับช่วยบำรุงฟื้นฟูสภาพผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยเสริมสร้างการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนกระชับ ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย