ลดพุง ลดไขมันหน้าท้อง แบบเร่งด่วน อย่างไรให้ได้ผลและปลอดภัย เลือกวิธีไหนดี

พุง หรือ ไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องนอกจากจะทำให้เสียบุคลจนเสียความมั่นใจแล้ว ยิ่งไปกว่านั่นพุงยังเป็นสัญญานอันตรายของความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทำให้หลายพยายามหาวิธีลดพุง ลดหน้าท้องด้วยหลายๆวิธี ซึ่งบางครั้งก็อาจไม่ใช้วิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะถึงแม้จะออกกำลังกายอย่างหนัก ควบคุมอาหารอย่างดี หรือทานยาลดน้ำหนักแต่พุงก็ไม่ยุบเสียที

ดังนั้นวันนี้เราจึงมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากเพื่อให้คนไข้สามารถทำความเข้าใจ และเลือกวิธีลดพุงให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งมีทั้งวิธีธรรมชาติ และวิธีเร่งด่วนหากอยากทราบแล้วว่ามีวิธีอะไรบ้าง อย่าพลาดข้อมูลในบทความนี้

เลือกอ่านเนื้อหา

พุง คืออะไร

พุง

พุง คือ บริเวณหน้าท้องที่ยื่นออกมาซึ่งอาจเกิดจากการสะสมของเกิดจากการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องที่มีระยะเวลานาน วิธีการลดพุงโดยทั่วไปจึงเป็นการกำจัดไขมันหน้าท้องออกไปได้ยากด้วยการออกกำลังกายหรือทานยาลดน้ำหนัก โดยเฉพาะไขมันในช่องท้อง ที่ร่างกายมีจะมีการดึงไขมันออกมาใช้เป็นพลังงานที่หลังสุด

ไขมันหน้าท้องมีกี่แบบ ?

ไขมันหน้าท้องสามารถแบ่งได้ทั้งหมด 3 ชั้น คือ

  1. ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (SUBCUTANEOUS FAT)
    ไขมันใต้ชั้นผิวหนังเป็นไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังชั้นที่ตื้นมากที่สุด หรือเรียกว่าใต้ผิวหนังนอก เป็นไขมันที่สามารถจับได้ และเห็นได้ชัดเจนเพราะทำให้ผิวหนังดูเป็นคลื่น มักพบในบริเวณหน้าท้อง สะโพก และต้นขา
  2. กล้ามเนื้อท้อง (ABDOMINAL MUSCLES)
    กล้ามเนื้อหน้าท้อง เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ถัดจากขั้นไขมัน เมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องขาดความกระชับ ทำให้เมื่อเวลาที่รับประทานอาหารเข้าไปมากๆ จึงทำให้เกิดเป็นพุงห้อยได้ง่ายๆ
  3. ไขมันในช่องท้อง (VISCERAL FAT)
    ไขมันในช่องท้อง เป็นไขมันที่สามารถกำจัดได้ยากมากที่สุด เกิดจากไขมันส่วนเกินที่ร่างกายเผาพลาญไม่หมด ซึ่งพบมากในผู้ชอบรับอาหารประเภทของทอด ของมันเป็นประจำ เมื่อเวลาผ่านไปไขมันส่วนนี้จะถูกดันออกมาทำให้หน้าท้องป่องเหมือนคนมีพุง

พุงมีกี่แบบอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้วพุงจะแบ่งออกเป็น 5 ลักษณะ ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้

พุงแต่ละแบบ
  1. พุงป่อง (Bloated Belly) คือพุงที่มีลักษณะแบนราบในตอนเช้าและมีอาการบวมป่องในช่วงเย็น ซึ่งมักโดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการรับประทานที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพราะอาหาร หรืออาหารไม่ย่อยเช่น นม เนย ชีส พิซซ่า ขนมปังเป็นต้น
  2. พุงฮอร์โมน (Hormonal Belly) หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าพุงหมาน้อย คือพุงที่มีลักษณะป่องที่ช่วงล่างของพุงแต่ด้านบนไม่ป่อง มักเกิดจากการทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือการทานของหวานมากเกิน รวมถึงคนที่ชอบทานอาหารแบบเดิมซ้ำๆ และมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะเห็นได้ชัดในช่วงก่อนมีประจำเดือน
  3. พุงเครียด (Stress-out Belly) คือพุงที่เกิดจากความเครียดสะสมจากการทำงานหนัก รวมถึงการกินอาหารและนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะลำไส้ทำงานผิดปกติ ซึ่งจะมีลักษณะพุงเป็นชั้นๆ หน้าท้องบวมอืด และยื่นเป็นชั้นออกมาระหว่างสะดือและกระบังลม
  4. พุงที่เกิดจากแอลกอฮอล์ (Alcohol Belly) คือพุงที่เกิดจากการดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ซึ่งส่งผลทำให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ยากขึ้น นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้สมองสั่งให้ร่างกายหยุดเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในช่องท้อง และสั่งให้ร่างกายเปลี่ยนการย่อยของเสียจากแอลกอฮอล์ให้กลายเป็นไขมันจนเกิดเป็นพุงป่องๆนั่นเอง
  5. พุงคุณแม่ (Mommy Belly) คือพุงที่มักเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอดได้ไม่นาน ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากการที่มดลูกยังไม่เข้าอู่ ทำให้พุงคุณแม่มีลักษณะห้อยและยื่นออกมาเป็นชั้นๆ แต่โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ หลังการคลอดเพื่อให้หน้าท้องกลับสู่สภาพปกติ แต่ในระยะนี้คุณแม่อาจจะต้องมีการคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างถูกร่วมด้วย

ขนาดรอบเอวของคนไม่มีพุง

ขนาดรอบเอวของคนที่ไม่มีพุง

โดยปกติแล้วรอบเอวมาตรฐานของคนเอเชียที่ไม่มีพุงจะมีขนาดดังต่อไปนี้

  • ผู้ชายควรมีขนาดรอบเอวไม่เกิน 36 นิ้ว หรือ 90 เซนติเมตร
  • ผู้หญิงควรมีขนาดรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้ว หรือ 80 เซนติเมตร

หากคนไข้มีรอบเอวเกินมาตรฐาน นั่นหมายถึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนลงพุง

พฤติกรรมที่ทำให้เกิดพุง

พุงเกิดจากอะไร

โดยส่วนใหญ่ พุงมักเกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมต่างๆดังนี้

กินมื้อเดียวเยอะๆ

สาเหตุแรกที่ทำให้มีพุงก็คือ การกินอาหารไม่ค่อยถี่ แต่กินทีเดียวเป็นมื้อใหญ่เช่น อดทั้งวันกินกลางคืนมื้อเดียวเยอะแล้วเข้านอน ซึ่งการอดอาหารมาทั้งวันแล้วกินทีเดียวจะทำให้หิวจนกินอาหารเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไปจนทำให้มีพุงได้

ชอบกินประเภทแป้ง ไขมัน และน้ำตาล

หากลองสังเกตจะเห็นว่าคนที่ชอบทานอาหารประเภทของทอดของมัน เนื้อสัตว์ที่ติดมันเยอะๆ ขนมปัง นมเปรี้ยว ขนมขบเคี้ยว ของหวาน เบเกอรี่ เค้ก ชา การแฟ น้ำหวาน ชาไข่มุกน้ำหนักตัวจะขึ้นง่าย และลงพุงได้เร็วกว่าคนทั่วไป

ไม่ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายหรือการเคลื่อนไหวจะช่วยทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน ดังนั้นหากไม่มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็อาจจะทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญไขมันได้หมด จนกลายเป็นไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องหรือพุงได้

เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักให้พลังงาน 7.1 แคลอรี่ต่อกรัม เนื่องจากมีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาลค่อนข้างสูง จากกระบวนการหมักหรือกลั่นมาจากข้าว หรือผลไม้ต่างๆ ซึ่งร่างการไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมไว้ภายในร่างกาย จนกลายเป็นพุงป่องๆในที่สุด

นอนดึก พักผ่อนไม่พอ

การนอนดึงจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เรียกว่า Ghrelin (เกรลิน) ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นความหิว และเมื่อทานตอนดึกๆร่ายการก็จะไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้เกิดอาการอ้วนลงพุงได้

ทานโปรตีนไม่เพียงพอ

การทานอาหารที่มีโปรตีนให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในร่างกายและช่วยพัฒนาให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้ไขมันในร่างกายจะลดลงนั่นเอง

วิธีลดพุงแบบธรรมชาติ สำหรับคนที่ไม่รีบร้อน

สำหรับการลดพุงแต่ละวิธีอาจจะต้องใช้ความสม่ำเสมอ และระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์ที่ต่างกัน ได้แก่

ออกกำลังกายลดพุง

ออกกำลังกาย ท่า Bicycle Crunch

อย่าที่รู้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายสามารถดึงเอาไขมันเก่ามาใช้เป็นพลังงาน จึงทำให้พุงลดลง และช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรงแบบองค์รวม โดยท่าออกกำลังกายที่แนะนำได้แก่ ท่า Mountain climber, ท่า Plank, ท่า RUSSIAN TWIST, ท่าปั่นจักรยานอากาศ (Bicycle Crunch) และท่า V-Ups

ระยะเวลาการเห็นผล ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 1-2 เดือน จึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจน

ใส่ที่รัดพุง

ถึงแม้ว่าการใส่ที่รัดพุงจะช่วยให้คุณดูผอมลงภายในไม่กี่วินาที โดยการใส่ที่รัดหน้าท้องจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องถูกรัดไว้ ไม่ให้เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติ จึงถูกใช้งานน้อยลง ทำให้เมื่อใส่ที่รักพุงเป็นติดต่อกันนานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแอลงจนเกิดพุงได้ง่ายกว่าเดิม
ระยะเวลาการเห็นผล สามารถเห็นผลได้ทันดี แต่เมื่อถอดออกแล้วพุงก็จะกลับมาเหมือนเดิม

ควบคุมอาหาร

ควบคุมอาหารให้ปริมาณน้อยลง

การควบคุมอาหารโดยเลือกรับประทานปาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ เช่นไข่ต้ม อกไก่ โยเกิร์ตไขมันต่ำ หรือผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย อาทิเช่น แก้วมังกร ฝรั่ง แอปเปิ้ล และควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารทอดๆ และเนื้อสัตว์ติดมัน ไม่ควรอดอาหาร แต่ควรกินอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ

ระยะเวลาการเห็นผล จะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ 1 เดือนแรก และจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในช่วง 3 เดือน

ทำ IF ลดพุง

ทำ if ลดพุง

การทำ IF (Intermittent Fasting) คือวิธีการกินและงดอาหารให้เป็นเวลา โดยช่วงที่งดอาหารนั้น จะทำให้ร่างกายดึงไขมันที่สะสมอยู่ออกมาใช้เป็นพลังงาน ถือเป็นวิธีที่ช่วยลดหน้าท้องที่เหมาะสำหรับคนไม่ชอบการออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก โดยมีสูตรเวลาที่นิยมใช้ในการทำ IF ดังนี้

สูตร 12/12 : กิน 12 ชั่วโมง และอดอาหาร 12 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มกิน IF ครั้งแรก

สูตร 16/8 : กิน 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเคยชินกับการอดอาหารมาระดับหนึ่งแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามการลดหน้าท้องด้วยวิธีนี้ จะไม่แนะนำให้ทำในผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตต่ำ หญิงตั้งครรภ์

ระยะเวลาการเห็นผล เริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงตั้งช่วง 1-2 เดือนแรก

วิธีลดพุงแบบเร่งด่วน สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย

ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีการลดน้ำแบบรวดเร็วอยู่หลายวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูงเพราะให้การดูแลโดยแพทย์ ได้แก่

Z Lipo + Z Wave

Z Lipo + Z Wave คือ 2 เทคโนโลยีในการลดไขมันเฉพาะส่วนโดยใช้ความเย็นจุดเยือกแข็งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส จากนั้นทำมีระบบการสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่เข้าไปสู่ชั้นไขมันเพื่อให้เซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนแตกตัวออกจากกัน และเผาผลาญพร้อมกับระบายไขมันออกไปตามระบบการขับของเสีย หรือระบบน้ำเหลือง

ระยะเวลาการเห็นผล การทำ Z Lipo & Z Wave 1 ครั้ง จะช่วยลดไขมันใต้ผิวหนังได้มากถึง 30% ทำให้สัดส่วนลดลงทันที 1-1.5 เซนติเมตร และเห็นผลที่ชัดเจนใน 1-2 เดือน

CoolSculpting

สลายพุงด้วยความเย็น

CoolSculpting เป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น ด้วยกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) โดยการส่งอุณหภูมิ -11 องศา ลงชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมันเกิดการ apoptosis โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับเซลล์เนื้อเยื่อ และถูกขับออกทางร่างกายเองตามธรรมชาติ ซึ่ง CoolSculpting ถือว่าเป็นเทคโนโลยีในการกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด (non-invasive) นิยมใช้ในบริเวณที่กำจัดได้ยากจากการออกกำลังกายและการลดน้ำหนัก

ระยะเวลาการเห็นผล สลายเซลล์ไขมันได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้งสามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ในช่วง 3-4 สัปดาห์ และเห็นผลที่ชัดเจนใน 3 เดือน

ปากกาลดน้ำหนัก (Diet Pen)

ปากกาลดน้ำหนัก (Diet Pen) หรือ Weight-Loss Pen คืออีกหนึ่งตัวช่วยของการลดพุง มีลักษณะคือเป็นด้ามปากกาโดยมีตัวยาที่ชื่อว่า Liraglutide (ลิรากลูไทด์) ทำหน้าที่คล้ายกับ GLP-1 เปบไทด์โปรตีนหรือฮอร์โมนที่มีอยู่ตามธรรมชาติในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้สมองออกคำสั่งให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม และช่วยให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง ทำให้หลังการทานอาหารอิ่มได้นานขึ้น

ระยะเวลาการเห็นผล สามารถช่วยลดพุงได้แบบเร่งด่วน เห็นผลทันใจใน 1 เดือน

BTL Exilis Elite ยกกระชับสัดส่วน

EXILIS ELITE เป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงสูงแบบขั้วเดียว(Focused, Continuous Monopolar Radio Frequency) ที่ส่งผ่านพลังงานแบบเฉพาะเจาะจงอย่างต่อเนื่อง ที่ทำให้เกิดพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและช่วยสลายไขมันไปพร้อมๆกัน ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยลดพุงได้อย่างปลอดภัย โดยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA)

ระยะการเห็นผล สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ตั้งแต่การทำ 2 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง โดยมีระยะห่างระหว่างการรักษา 7-10 วัน

ดูดไขมันหน้าท้อง

ดูดไขมันส่วนเกินหน้าท้อง

การดูดไขมันหน้าท้อง (Stomach liposuction) เป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่งเพื่อกำจัดไขมันสะสมที่บริเวณหน้าท้องออกไป โดยการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อยาวใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อสลายเซลล์ไขมัน และดูดไขมันส่วนเกินออกมาจากบริเวณหน้าท้อง ถือเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันออกมาได้ในปริมาณที่มากกว่าวิธีอื่น (แต่การดูดไขมันเกิน 5 ลิตรในแต่ละครั้ง) และจะต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีระยะเวลาในการพักฟื้นที่นานกว่าเช่นกัน

ระยะเวลาการเห็นผล สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากที่สุดใน 1-3 เดือน เมื่ออาการบวมยุบลงสนิท

ฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้อง

ฉีดแฟตหน้าท้อง

การฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง คือการฉีดตัวยาที่ชื่อว่าเมโสแฟต (Meso Fat) ซึ่งตัวยานี้จะทำหน้าที่ไปกระตุ้นระบบการเผาผลาญไขมันลงสู่ชั้นใต้ผิวหนังผิวบริเวณหน้าท้องที่มีไขมันส่วนเกินจับตัวกันเป็นก้อน ในบริมาณ 40-80 CC เพื่อให้ไขมันสลายไขมันหรือเซลล์ลูไลท์สลายตัวออกจากกันกลายเป็นของเหลว และถูกกำจัดออกไปพร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผิวมีความระชับเรียบเนียนขึ้น

ระยะเวลาการเห็นผล หลังการฉีดจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน และเห็นผลที่ชัดเจนว่าพุงยุบลงใน 1-2 เดือน

การใช้ยาลดน้ำหนัก

การใช้ยาลดน้ำหนัก ถือเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักอีกหนึ่งวิธี โดยยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ต่อระบบสมองส่วนไฮโปทาลามัส ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการอยากอาหาร ส่งผลทำให้รู้สึกเบื่ออาหาร และรับประทานอาหารได้น้อยลง แต่วิธีนี้มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย จึงควรได้รับการควบคุมอย่างเคร่งครัดโดยผู้เชี่ยวชาญ

ระยะเวลาการเห็นผล การเห็นผลจะขึ้นอยู่กับตัวยาที่ตัวยา และพฤติกรรมการทานหารร่วมด้วย

วิธีลดพุงแบบเร่งด่วนเหมาะกับใคร

  1. เหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างอ้วนลงพุง พุงป่อง มีไขมันหน้าท้องเยอะ
  2. เหมาะกับผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน
  3. เหมาะกับคุณแม่หลังคลอดที่มีไขมันส่วนเกินรอบเอว
  4. เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกาย และควบคุมอาหารแล้วแต่รอบเอวไม่ลดลง
  5. เหมาะกับผู้ที่หมดความมั่นใจในรูปร่าง
  6. เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ข้อควรระวังในการลดพุงที่ควรรู้

การลดพุงควรเลือดวิธีที่เหมาะสม และเลือกวิธีที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ และควรปฏิบัติย่างพอดีไม่หักโหมจนเกิดอันตรายกับร่างกาย ซึ่งหากใครต้องการลดพุงที่ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ชัดเจนแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในขณะลดพุง

สำหรับผู้ที่ต้องการลดพุงแนะนำให้มีการควบคุม แคลอรีจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน เช่น

  • ผู้ชาย : ควรได้แคลอรีประมาณวันละ 2,000 กิโลแคลอรี
  • ผู้หญิง : ควรได้แคลอรีประมาณวันละ 1,600 กิโลแคลอรี

นอกจากนี้ในขณะที่กำลังลดพุงแนะนำให้หลีเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารที่มีแป้ง และน้ำตาล เช่น แอลกอฮอล์ อาหารแปรรูป ของทอด อาหารไขมันสูง ของหวาน น้ำอัดลม รวมถึงขนมขบเคียวที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง

อาหารที่ควรรับประทานเพื่อลดพุง

อาหารที่แนะนำในช่วงที่มีการลดพุงควเป็นอาหารที่มีแคลอรีต่ำ และเป็นอาหารที่มีแป้งน้ำตาลน้อย ได้แก่อาหารประเภทต้ม นึ่ง ตุ๋น ลวก อกไก่ ไข่ขาว ปลา เนื้อหมูสันใน ผักผลไม้ พืชตระกูลถั่ว นอกจากนี้ยังควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน

การดูแลตัวเองไม่ให้มีพุงใหญ่ พุงยื่น

  • งดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่นน้ำอัดลม, ชา, กาแฟ, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ชาไข่มุก เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และไขมันสูง พร้อมทั้งรับประทาน โปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30-45 นาที ต่อวัน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
  • เน้นรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์และโปรไบโอติกส์
  • หลีกเลี่ยงความเครียด และนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ในช่วงเวลา 22.00น. เป็นต้นไป

อ้วนลงพุง อันตรายไหม ?

การมีไขมันสะสมในช่องท้องปริมาณมาก ๆ หรือการอ้วนลงพุงอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคที่อันตราย ได้แก่ โรคอ้วน ไขมันอุดตัน ภาวะไขมันพอกตับ โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง มะเร็ง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) โรคไขมันในเลือดสูง โรคข้อเสื่อม เส้นเลือดขอด ภาวะภูมิแพ้ ไขมันไปอุดตันอยู่ตามหลอดเลือด เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมกินน้อย แต่มีพุง

การหักโหมในการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร อาจทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานผิดปกติ ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญในร่างกายลดต่ำลง จึงเป็นเหตุทำให้การลดน้ำหนักในช่วงหลังการอดอาหารเป็นไปได้ช้า และเมื่อกลับมากินใหม่ก็อาจทำให้มีน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วหรือที่เรียกว่า “โยโย่เอฟเฟค” นั่นเอง

วิธีการลดพุงสำหรับผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันไหม ?

จากการสำรวจจะพบว่าผู้ชายมีภาวะการอ้วนลงพุงมากกว่าผู้หญิง ซึ่งวิธีที่จะช่วยในการลดพุงได้ดีและปลอดภัยที่สุดนั่นคือการออกกำลังกาย แต่สำหรับผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการอักเสบของกล้ามเนื้อการออกกำลังกายก็อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อ รวมถึงเพิ่มอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ใช้นวัตกรรมลดสัดส่วนด้วย Z Lipo + Z Wave ซึ่งเป็นวิธีลดไขมันที่ไม่ทำให้เกิดบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ทำโดยผู้เชี่ยวชาญ จึงมั่นใจในความปลอดภัย

แปรงฟันบ่อยๆช่วยลดพุงได้จริงไหม

แปรงฟันหลังกินอาหาร นอกจากจะช่วยลดปัญหาในช่องปาก เช่น คราบหินปูน กระพุ้งแก้มอักเสบ และ ฟันผุ แล้ว Sodium Lauryl Sulfate ที่เป็นส่วนประกอบในยาสีฟันยังช่วยลดความสามารถในการรับรสหวาน ทำให้หลังการแปรงฟัน แล้วทานของหวาน จะรู้สึกมีรสชาติที่ขม และกินอะไรไม่ค่อยอร่อย จึงช่วยลดไขมันหน้าท้องได้

รีวิวลดไขมันหน้าท้องด้วยนวัตกรรมลดพุง

ลดไขมันส่วนพุง แบบไม่ต้องผ่าตัด
รีวิวลดพุงแบบเร่งด่วน

สรุปลดพุงแบบไหนดี

ในปัจจุบันวิธีการลดพุง ลดหน้าท้อง อาจมีให้เลือกหลากหลายวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล แต่หากใครต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินที่มีความปลอดภัยสูง และเห็นผลอย่างเร่งด่วน เทคโนโลยี Z Lipo + Z Wave ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง เพราะสามารถกำจัดไขมันได้ทันทีถึง 30% และลดสัดส่วนลงได้ 1-1.5 เซนติเมตร และเห็นผลที่ชัดเจนใน 1-2 เดือน

ที่มา :

https://sfhealthtech.com/blogs/post/how-to-lose-belly-fat

https://www.medicalnewstoday.com/articles/how-to-measure-your-waist#other-measurements