รวมราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บอกลาทุกปัญหาใต้ตา เลือกยังไงให้คุ้มค่า

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา

หากยังไม่รู้ว่าจะเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาแบบไหนดี ให้ปลอดภัย ได้มาตรฐาน กลัวผิดหวังจากฟิลเลอร์ เพราะบริเวณที่ฉีดใกล้ดวงตา ซึ่งบอบบางและเซนซิทีฟเอามากๆ หากเลือกผิด อาจบวมย้อย หรืออันตรายต่อดวงตา วันนี้จึงไม่พลาดรวบรวมราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในปี 2023 พร้อมวิธีเลือกแพคเกจ แบบไหนคุ้มค่าสุด จบสวย ไม่ต้องแก้

แนะนำอ่านเพิ่มเติม

สำหรับฟิลเลอร์ใต้ตาที่แพทย์แนะนำ และเลือกใช้จะต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเติมเต็มบริเวณรอบดวงตา หรือใต้ตา ที่มีผิวค่อนข้างบาง นั่นก็คือ ใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียดและนิ่ม และต้องไม่ฟูเยอะ เพราะจะยิ่งทำให้ตาดูบวม ยิ้มแล้วเป็นก้อน ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในปี 2023 มีดังนี้

ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดใต้ตา แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ราคาเท่าไหร่

ฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศอเมริกา

เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา ที่นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand (DSKH) นิยมใช้กับการฟิลเลอร์ใต้ตามีคุณสมบัติอันโดดเด่นคือไม่รู้สึกเจ็บในขณะที่ทำ เพราะมีส่วนผสมของยาชา ให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ ด้วย เทคโนโลยี Vycross และทนต่อแรงขยับได้ดี มีอัตราการอุ้มน้ำได้ดี อันมาจากเทคโนโลยี Hylacross

Juvederm มี 3 รุ่น ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีดังนี้

Juvederm รุ่น Volite

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการฟิลเลอร์ใต้ตาในชั้นตื้น ไม่ลึกมาก
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวใต้ตาหย่อนไม่มาก 
  • ต้องการกระชับผิวใต้ตาให้ตึงรับกับใบหน้า

อยู่ได้นาน : 8-12 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 12,000-14,000 บาท / 1 CC

Juvederm รุ่น Voluma

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ใต้ตาลึก ตาโหล เติมเนื้อใต้ตา
  • ผู้ที่ต้องการเติมเต็มใต้ตาแบบให้เนียนเป็นธรรมชาติ และคงผลลัพธ์ไว้นาน เนื่องจากรุ่น Voluma มีเนื้อที่แข็งกว่า อุ้มน้ำได้ดีกว่ารุ่นอื่น

 อยู่ได้นาน : 18 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 10,000-13,000 บาท / 1 CC

Juvederm รุ่น Volux

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ปัญหาร่องใต้ตาลึกมาก ตาโหล หมองคล้ำ หรือบริเวณรอบดวงตาโบ๋ลึก จนทำให้ดูโทรม เพราะรุ่น Volux มีค่างคงตัวสูง พร้อมๆ กับยืดหยุ่นสูง จึงสามารถฉีดลึกลงไปบริเวณกระดูกใต้ตาชั้นลึกได้ดี

อยู่ได้นาน : 18-24 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 14,000-18,000 บาท / 1 CC

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ของประเทศสวีเดน

เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตมาอย่างยาวนานที่สุดในโลก และเป็นฟิลเลอร์ที่ใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่เป็นสารใกล้เคียงกับ ไฮยารูลอนิกแอซิดที่อยู่ในร่างกายของเรา จึงไม่เกิดการระคายเคือง และร่างกายเราไม่ต่อต้านอีกทั้งยังใช้ 2 เทคโนโลยี ดังนี้

  1. NASHA techology หรือชื่อเต็มคือ Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology เป็นเทคโนโลยีไฮยารูลอนิกแอซิดมีค่าคงตัวที่ดี สามารถดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามาเก็บไว้กับตัวยาฟิลเลอร์
  2. OBT Technology หรือชื่อเต็มคือ Optimal Balance Technology ที่เน้นให้ความยืดหยุ่น ปรับรูปทรงได้ดี ดังนั้นฟิลเลอร์ Restylane ที่พร้อมไปด้วยทั้ง 2 เทคโนโลยี จึงเหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ร่องตื้น หรือใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นั่นเอง

Restylane มี 4 รุ่น ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีดังนี้

Restylane รุ่น Perlane Lyft

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา 
  • ผู้ที่มีผิวบริเวณรอบดวงตาไม่มาก หรือผิวบาง
  • ผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องตื้นใต้ตา

อยู่ได้นาน : 12 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 8,000-15,000 บาท / 1 CC

Restylane รุ่น Classic

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องลึกตั้งแต่ระดับปานกลางไปถึงระดับมาก เนื่องจากเนื้อเจลรุ่น Classic มีอนุภาคที่ใหญ่

อยู่ได้นาน : 12 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 10,000-14,000 บาท / 1 CC

Restylane รุ่น Vital Light

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีผิวบาง ที่เซนซิทีฟ และมีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ที่ต้องการฉีดเติมเต็มแบบเก็บรายละเอียด โดยระหว่างฉีดไม่รู้สึกเจ็บ เพราะรุ่น Vital Light มีส่วนผสมของยาชา

อยู่ได้นาน : 6-12 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 10,000-13,000 บาท / 1 CC

Restylane รุ่น Defyne

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาร่องตาลึก โหลและโทรม ต้องการความชุ่มชื่นให้กับผิวรอบดวงตา เนื่องจากเนื้อเจอรุ่น Defyne มีความอุ้มน้ำได้ดี

อยู่ได้นาน : 18 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 10,000-20,000 บาท / 1 CC

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเพื่อนำมาแก้ปัญหาใต้ดวงตาอย่างแท้จริง ด้วยคุณสมบัติที่ครอบถ้วน คือ มีความยืดหยุ่นมากและคงตัวสูง

Belotero มี 2 รุ่น ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีดังนี้

Belotero Volume 

เหมาะกับใคร 

  • ผู้ที่มีผิวใต้ตาลึกมาก เพราะมีเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงตัว
  • ผู้ที่มีใต้ตาหมองคล้ำมาก

อยู่ได้นาน : 18 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 10,000-13,000 บาท / 1 CC

Belotero Soft

เหมาะกับใคร 

  • ผู้ที่มีผิวบริเวณรอบดวงตาเหี่ยวย่น 
  • รอบดวงตามีรอยเยอะ 
  • ต้องการแก้ไขรอบดวงตาให้เรียบเนียน เต่งตึงรับกับผิวหน้าเพื่อให้ดูเด็กขึ้น

อยู่ได้นาน : 6-12 เดือน

ราคาโดยประมาณ : 10,000-13,000 บาท / 1 CC

วิธีเลือกโปรโมชั่น / แพคเกจ ฟิลเลอร์ใต้ตา ให้ได้ราคาที่เหมาะสม

เพื่อความคุ้มค่าในแง่ของผลลัพธ์และความเหมาะสมกับเงินค่าเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจากคลินิกใดคลินิกหนึ่ง ควรจะคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้

เช็กราคาจากคลินิกที่มีมาตรฐานเท่านั้น

หากกำลังรวบรวมโปรโมชั่นฟิลเลอร์ใต้ตาหลายๆ คลินิกเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ ตัวเลือกเหล่านั้นจะต้องเป็นคลินิกที่มีมาตรฐานเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยต่อผิวหนังและดวงตา รวมถึงไม่ต้องเสี่ยงได้ผลลัพธ์แย่ๆ ตามมา

ราคาสมเหตุสมผลกับอายุการใช้งาน

เลือกราคาโปรโมชั่น หรือแพคเกจฟิลเลอร์ใต้ตา ที่มีราคาเหมาะสม ไม่เห็นแก่ของถูก เพราะน่ากลัวว่าจะได้ของปลอม รวมถึงต้องสอดคล้องกับอายุการใช้งาน หรือระยะเวลาการคงสภาพของฟิลเลอร์อยู่กับเราได้นานเท่าไหร่ด้วยนั่นเอง

เลือกคลินิกที่มียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เลือกมากกว่า 1 ขึ้นไป

เพราะปัญหารอบดวงตาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งใต้ตาลึก ตื้น มีริ้วรอยเยอะ หรือบาง รวมถึงพื้นฐานสภาพผิวก็แตกต่างกันไปด้วย ฉะนั้นแล้วการเลือกคลินิกที่ไม่ผูกมัดเราด้วยฟิลเลอร์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ก็จะทำให้เรามีโอกาสเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของเราได้ดี แก้ปัญหาได้ตรงจุด ไม่เสี่ยงฉีดแล้วห้อยย้อย หรือผลข้างเคียงอื่นๆ จากการที่คุณสมบัติของฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้นๆ ไม่เหมาะกับผิวเราตั้งแต่ต้น

ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีด 1 ครั้ง อยู่ได้นานเท่าไหร่

เฉลี่ยแล้วจะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน จากการฉีดต่อ 1 ข้างในปริมาณ 1 CC เป็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยยี่ห้อที่ได้มาตรฐานและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์  

ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกแบบไหนดี ให้เห็นผลลัพธ์ดีที่สุด

วิธีการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาโดยยึดปัจจัยเหล่านี้ เผื่อจะสามารถทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์ที่สุด

เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ / รุ่นของฟิลเลอร์ ที่มีคุณสมบัติ เหมาะสำหรับฉีดบริเวณรอบดวงตาโดยเฉพาะ

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการฉีดใต้ตา และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ มี 3 ยี่ห้อ ได้แก่ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm, ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane และฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero

โดยแต่ละยี่ห้อ ไม่ได้มีแค่รุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่ผลิตมาหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นที่เหมาะจะนำมาฉีดฟิลเลอร์ใตต้า ก็ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน

เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น

เนื่องจากปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้ผู้เข้ารับบริการเลือกใช้ รวมถึงราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่สามารถจับต้องได้ ไปจนถึงมีราคาสูง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการของปลอมออกมามากมาย ฉะนั้นแล้วต้องเช็กให้ชัวร์ว่ายี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกเป็นของแท้ โดยดูจากกล่องฟิลเลอร์ดังนี้

  • จะต้องมีเลขการจดทะเบียนอย. ที่กล่อง
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข lot ที่กล่อง ซองสติกเกอร์ หรือหลอดตรงกัน
  • สามารถนำเลข lot โทรเช็กกับบริษัทนำเข้าได้

สรุป

แน่นอนว่า ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในปี 2023 จากคลินิกที่ได้มาตรฐาน จะทำราคาโปรโมชั่น ไม่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ ราคาค่าบริการและค่าฝีมือแพย์ผุ้ฉีด ดังนั้นก่อนเรารับบริการควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดครบถ้วนและต้องมั่นใจว่าคลินิกที่จะฉีดจะต้องใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้มาตรฐาน