รวมฟิลเลอร์ที่นิยมปี 2023 ยี่ห้อไหนดีสุด เลือกอย่างไรให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

ในปัจจุบันจะเห็นว่าฟิลเลอร์นั้นมีมากมายหลายยี่ห้อ สืบเนื่องมาจากได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายๆคลินิกมีการแข่งขันทางด้านโฆษณา ซึ่งพบว่ามีฟิลเลอร์อยู่หลายยี่ห้อที่ถูกแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆอีกมากมาย จนทำให้หลายๆคนเกิดความสงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี เลือกยังไงให้เหมาะสม ในบทความนี้ออนนี่จึงได้รวบรวมฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. มาแนะนำ ซึ่งจะมีรุ่นไหน มีคุณสมบัติอะไรบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

ฟิลเลอร์คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่มีชื่อ Hyaluronic Acid หรือ HA เป็น Polysaccharide (โพลีแซคคาไรด์) ที่มีอยู่ในผิวหนังและกระดูกอ่อนของร่างกาย ทำหน้าที่ขายคอลลาเจน เมื่อผสมรวมกับน้ำจะขยายตัวอยู่ในรูปของเนื้อเจล ซึ่งคอลลาเจนนั้นเป็นโปรตีนสำคัญและเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ จึงช่วยเติมเต็มแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องลึกริมฝีปาก

ฟิลเลอร์ มีกี่ยี่ห้ออะไรบ้าง

ในปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อ.ย. และนิยมในในคลินิกชั้นนำจะมี 4 ยี่ห้อดังนี้

ฟิลเลอร์ Juvederm

  • Juvederm Voluma
  • Juvederm Ultra Plus
  • Juvederm Volbella
  • Juvederm Volift
  • Juvederm Volite

ฟิลเลอร์ Restylane

  • Restylane Perlane Lyft
  • Restylane Vital Light
  • Restylane Volyme
  • Restylane Defyne
  • Restylane Refyne
  • Restylane Classic

ฟิลเลอร์ Perfectha

  • Perfectha Subskin

ฟิลเลอร์ Belotero

  • Belotero Intens
  • Belotero Volume

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี และจุดประสงค์ที่ต่างกัน ดังนั้นจึงทำให้มีคุณสมบัติและข้อแตกต่าง เพื่อให้เหมาะสมกับการฉีดแก้ไขปัญหาแลละบริเวณที่แตกต่างกันดังนี้

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm 

Juvederm เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตมากกว่า 36 ปี มีจุดเด่น คือ เทคโนโลยี vycross และ hylacross ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง สามารถยกกระชับได้ดี ทนต่อการขยับ อัตราการบวมน้ำน้อย คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ให้มีความเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ มีการนำเข้าอย่างถูกต้องจากองค์กรอาหารและยาของไทย (อย.) มีทั้งหมด 5 รุ่น คือ

  • Juvederm Voluma เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง โมเลกุลขนาดใหญ่ เหมาะกับการเติมเติมเต็มใต้ตา ร่องแก้ม คาง และ ขมับ ตามการพิจารณาของแพทย์ ให้ผลหลังการฉีดที่เป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่นาน 18 เดือน
  • Juvederm Ultra Plus เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะกับคนที่มีปัญหาร่องลึก และ ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า นิยมใช้บริเวณริมฝีปาก ร่องแก้ม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน   
  • Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม มีความละเอียดมากที่สุดของJuvederm เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณใต้ตา รอยขมวดคิ้ว ริมฝีปาก นิยมใช้เก็บรายละเอียดร่องแก้ม และ เหมาะกับคนที่มีผิวบาง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด มีลักษณะเนื้อนิ่ม  เหมากับการฉีดเติมหน้าผาก ไม่เป็นก้อน ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อยู่นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volite  เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยอุ้มน้ำ บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เหมาะกับการฉีดริมฝีปาก ใต้ตา ผิวชั้นตื้น และคนที่มีผิวบางแต่ไม่มากเกินไป ผลลัพธ์อยู่ 8 – 12 เดือน

ฟิลเลอร์ Restylane

เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid จากประเทศสวีเดน ที่มีเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะทั้ง 2 เทคโนโลยี คือ

– NASHA techology เป็นเทคโนโลยีการผลิต Hyaluronic Acid ที่มีความคงตัวสูง มีคุณสมบัติเด่นในการดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามาเก็บไว้กับตัวฟิลเลอร์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หลังการฉีดจึงไม่ก่อให้เกิดการแตกตัวง่าย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ในแต่ละรุ่นจะมีขนาดของโมเลกุลที่หลากหลาย เพื่อให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการฉีด

– OBT technology มีลักษณะเป็นเนื้อเจล โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่น มีความคงตัว สามารถปั้นทรงได้ง่าย มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการฉีดในจุดที่มีการเคลื่อนไหวมาก และ ผู้ที่มีผิวบาง

Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก โดยผ่านการรับรองจาก US FDA  และ Thai FDA ว่าปลอดภัยซึ่งมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ แต่รุ่นที่ผ่านการรับรองจาก อ.ย.มีดังนี้

  • Restylane Perlane Lyft  เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีจุดเด่นคือมีความคงตัวสูง มีส่วนผสมของยาชา หลังฉีดไม่ฟู คงรูปได้เป็นอย่างดี ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน นิยมฉีดบริเวณใต้ตา
  • Restylane Defyne เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงเนื้อแข็ง มีความนิ่มปานกลาง มีส่วนผสมของยาชา เหมาะสำหรับใช้แก้ปัญหาริ้วรอยลึกให้ดูตื้นขึ้น และ เหมาะสำหรับฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก นิยมใช้ในบริเวณร่องแก้ม ฉีดเสริมโหนกแก้ม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Vital Light มี 2 รุ่น คือ รุ่นที่ไม่ผสมยาชา และ รุ่นที่ผสมยาชา (Lidocaine) เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจลอนุภาคเล็ก มีความละเอียดมาก เหมาะกับการใช้เก็บรายละเอียดเช่นใต้ตา ผิวชั้นตื้น ริมฝีปาก และ แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane Volyme เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อฟู เหมาะกับการเติมเต็มบริเวณใบหน้าให้อิ่มฟู เต่งตึงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ มีส่วนผสมของยาชา นิยมฉีดเติมเต็มบริเวณที่ยุบตัว ร่องลึก เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Refyne เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อเจล ยืดหยุ่นได้ดี เน้นเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ ทำให้ผิวดูอ่อนวัย และ ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกลึกได้เป็นอย่างดี มีส่วนผสมของยาชา ให้ผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane classic หรือ Restylane  เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจลมีอนุภาคใหญ่ เหมาะกับการฉีดร่องตื้นอย่าง ร่องแก้มตื้นๆ ร่องรอยขมวดคิ้ว และช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก แต่ฟิลเลอร์รุ่นนี้จะไม่มีส่วนผสมของยาชา  ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Perfectha

เป็นฟิลเลอร์ที่ มีนวัตกรรมการเติมเต็ม E-Brid Technology จากประเทศฝรั่งเศส ผลิตด้วยกระบวนการเทคโนโลยีชีวภาพ มีจุดเด่นในเรื่อง ความยืดหยุ่น และ การให้ความชุ่มชื้น สามารถอุ้มน้ำได้ดี มีปริมาณ Hyaluronic Acid เข้มข้นสูง ทนทานต่อการทำลายของเอนไซม์ของร่างกาย ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ได้รับความนิยมในกลุ่มของคนเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นคนไทย จีน เกาหลี และมีจำหน่ายมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีรุ่นที่นิยมใช้ที่สุดคือ

Perfectha Subskin เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เนื้อแน่น ไม่ฟู สามารถปั้นทรงสวยอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการใช้ในจุดที่ต้องการเสริมโครงสร้างเช่น ฉีดฟิลเลอร์คาง และ ขมับ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero

เป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ โดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นฟิลเลอร์ที่มีกล่องมีสีสันสดใส ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย USA FDA, CE mark และ TH FDA  มีหลายรุ่นให้เลือกฉีดตามความเหมาะสมคือ

  • Belotero รุ่น volume  เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีการคงตัวสูง สามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก แทนกระดูก เพื่อให้โครงสร้างใบหน้าได้ เช่น ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาลึก ใบหน้าตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก สัดส่วน นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า โหนกแก้ม และ ฉีดเสริมคาง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero รุ่น intense เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดเพื่อแก้ปัญหาการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังจากการเสื่อมสภาพตามวัย ที่เป็นร่องลึกมากๆ เช่น บริเวณร่องแก้ม แก้มตอบ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

ตำแหน่งไหนควรใช้ฟิลเลอร์กี่CC

เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติควรใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่พอดีกับในแต่ละจุดดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์จมูก 1 CC
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง 1-2 CC
  • ฉีดฟิลเลอร์ปากอวบอิ่ม 1-2 CC
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-2 CC
  • ฉีดฟิลเลอร์เติมแก้ม แก้มตอบ 2-4 CC
  • ฉีดฟิลเลอร์เติมใต้ตา 1-3 CC
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ 2-3 CC
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก 1-2 CC

โดยฟิลเลอร์ในแต่ละไซริงค์จะมีปริมาณของฟิลเลอร์อยู่ที่ 1 CC เท่ากันทุกยี่ห้อทุกรุ่น แตกต่างกันเพียงคุณสมบัติและความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid เท่านั้น

ข้อดีและข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  • ช่วยเติมเต็มริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์หลังฉีดเห็นผลทันที และไม่ต้องพักฟื้น
  • ฟิลเลอร์ที่เป็นสาร Hyaluronic Acid มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่มีปัญหาเรื่องของสารตกค้างในร่างกาย
  • ฟิลเลอร์สามารถเติมได้เรื่อย ๆ เพื่อปรับแต่งได้รูปทรงให้ได้ตามที่ต้องการ (หากไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกได้100%)
  • สามารถให้ผิวดูยกกระชับ และ เต่งตึงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผลเป็น ไม่ต้องเสี่ยงกับรอยแผลเป็น
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และ ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

  • ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้เพียง 6-18 เดือนเท่านั้น ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร
  • ไม่เหมาะกับบางตำแหน่งในร่างกาย เช่น หน้าอก สะโพก เพราะต้องใช้ปริมาณที่มาก ทำให้มีราคาที่สูงกว่าการผ่าตัด
  • ต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญและมีประสบการณ์เท่านั้นจึงจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

วิธีสังเกตฟิลเลอร์ของแท้และของปลอม ดูอย่างไร?

เนื่องจากฟิลเลอร์ในปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงต้องมีการสังเกตให้ดีทุกครั้งก่อนฉีด ซึ่งจุดสังเกตง่ายๆของฟิลเลอร์แท้มีดังนี้

  • ระบุมี lot number และ ข้อมูลของบริษัทนำเข้าติดอยู่ที่กล่องอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
  • มีฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่อง พร้อมกับราคา
  • ที่กล่องและซอง มีวันที่ผลิต วันหมดอายุชัดเจน
  • มี Ref. เลขที่อ้างอิง
  • สภาพกล่องต้องปิดผนึกเรียบร้อย 

ฟิลเลอร์แท้สามารถสลายได้เองจริงไหม

การฉีดฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสารชนิด Hyaluronic Acid  สามารถย่อยสลายได้ 100% ด้วยระบบเอนไซม์ในร่างกาย ตามคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นและ การดูแลตัวเองหลังการฉีด โดยใช้เวลาประมาณ 6-18 เดือน แต่หากใครต้องการให้สลายได้เร็วมากยิ่งขึ้นก็สามารถฉีด เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส  (Hyaluronidase:HYAL) เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ทันที

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดก็ตาม ควรได้รับการพิจารณาจากแพทย์อย่างละเอียด เพื่อให้ได้คุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และ ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติไม่แข็งเป็นก้อน นอกจากนี้การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นสาร Hyaluronic Acid จะช่วยให้มีความปลอดภัยได้ 100% อีกด้วย