ฟิลเลอร์ Restylane
หากพูดถึงฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน และ พูดถึงกันเป็นอย่างมาก ก็คงหนีไม่พ้นฟิลเลอร์ Restylane ที่เป็นสารเติมเต็มกลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด จากประเทศสวีเดน ซึ่งผ่านการรับรองจาก FDA ว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะใกล้เคียงกับไฮยารูลอนิกแอซิดที่อยู่ในร่างกายสามารถสลายได้หมด100% โดยไม่มีสารตกค้าง และ ไม่เกิดการต่อต้านจากร่างกาย หรือ ไม่เกิดอาการแพ้ระคายเคือง
ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane คือ ฟิลเลอร์ในกลุ่มสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ไฮยารูลอนิกแอซิด ที่เป็นของบริษัท Galderma บริษัทยาเจ้าใหญ่โดยฟิลเลอร์ Restylane ผลิตในประเทศสวีเดนมานานกว่า 24 ปี มีความปลอดภัยสูง โดยผ่านการรับรองว่าปลอดภัยจาก US FDA และ Thai FDA จึงทำให้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก เพราะใกล้เคียงกับไฮยารูลอนิกแอซิดที่อยู่ในร่างกาย นิยมฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ร่องตื้น เพิ่มความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้กับผิว สามารถนำมาฉีดได้หลายบริเวณโดยเฉพาะฉีดใต้ตา
ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม มีคุณสมบัติอย่างไร?
ในปัจจุบัน ฟิลเลอร์ Restylane ได้มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฟิลเลอร์ Restylane มีเทคโนโลยีที่โดดเด่นในผลิตขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะอยู่ 2 เทคโนโลยี คือ
NASHA techology และ OBT technology เพื่อทำให้ได้คุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่หลากหลาย เหมาะสมกับความต้องการและแก้ปัญหาผิวหน้าของคนไข้ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ และ ปัญหาในแต่ละจุด เช่น
- NASHA techology หรือ Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology เป็นไฮยารูลอนิกแอซิดที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ป้องกันการเกิดการแพ้ FDA จากสหรัฐอเมริกา CE marks จากยุโรป มีความคงตัวเนื้อเจลมีขนาดเล็ก ปานกลาง ใหญ่ ไม่เท่ากันในฟิลเลอร์แต่ละรุ่น โดย NASHA ของ Restylane จะใช้การขดเส้นใย HA ร่วมกับการใส่ crosslink แล้วค่อยทำให้เป็นเม็ดละเอียด(particle) เพื่อให้ได้เนื้อ Filler ที่มีค่า Elasticity สูงที่สุด
นอกจากนี้ฟิลเลอร์ Restylane ยังมีมีจุดเด่นคือ การดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามาเก็บไว้กับตัวยาฟิลเลอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หลังฉีดไม่ก่อให้เกิดการไหลไปตามบริเวณต่างๆ สามารถอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 6-12 เดือน ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 1996 อย่างแพร่หลาย และ ในปัจจุบันถูกใช้มากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก - OBT Technology หรือ Optimal Balance Technology ที่ผลิตมาภายหลังการผลิตแบบ NASHA เป็นอีกเทคโนโลยีการผลิตของฟิลเลอร์ Restylane ที่ยอมรับการยอมรับและเลือกใช้โดยแพทย์จากทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยี OBT Technology จึงทำให้ฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเหมือนเนื้อเจลมีที่เน้นในเรื่องของความยืดหยุ่น สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย และ มีความคงตัวได้ดี
ฟิลเลอร์ Restylane มีกี่รุ่นอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ Restylane ถูกผลิตออกมากลายรุ่นมาก โดยแต่ละรุ่นจะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์กับทุกปัญหาผิวของคนไข้ดังนี้
- Restylane Vital Light
- Restylane Perlane Lyft
- Restylane Refyne
- Restylane Volyme
- Restylane Defyne
- Restylane Classic
- Restylane Kysse
- Restylane SubQ
ฟิลเลอร์ Restylane เหมาะกับส่วนไหน?
เนื่องจากฟิลเลอร์ Restylane ได้มีการผลิตออกมาหลายรุ่น หลายลักษณะดังนั้น การเลือกใช้ควรเลือกให้เหมาะสมดังนี้
Restylane Vital Light
เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เจลอนุภาคเล็ก มีความนิ่มที่สุด เหมาะสำหรับฉีดบริเวณที่ใกล้ๆตาเพื่อแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา และ เติมเต็มริมฝีปาก และ แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อยู่นานประมาณ 6-12 เดือน (ฟิลเลอร์รุ่นนี้มีส่วนผสมของยาชา)
Restylane Perlane Lyft
เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดีที่สุด นิยมฉีดแก่ไขปัญหาใต้ตาที่มีการยุบตัวของกล้ามเนื้อและกระดูก ฉีดบริเวณจมูก และ แก้มส้ม อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน (เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีส่วนผสมของยาชา)
Restylane Refyne
เนื้อเจลมีลักษณะ ยืดหยุ่น เหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ ทำให้ผิวดูอ่อนวัย หรือ ริ้วรอยร่องลึกบริเวณร่องแก้มที่เกิดจากการยิ้ม อยู่นานประมาณ 12 เดือน (เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีส่วนผสมของยาชา)
Restylane Defyne
เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นที่สูงใช้ฉีดกระดูกที่ยุกยุบตัวในผิวชั้นลึก เพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม นิยมฉีดในบริเวณ midface หรือ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และ ฉีดเสริมโหนกแก้ม อยู่ได้นานช่วง 18 เดือน (มีส่วนผสมของยาชา)
Restylane Volyme
ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับฉีดเติมเต็มส่วนที่มีการยุบตัวของกล้ามเนื้อ ร่องลึก เช่นแก้มตอบ ขมับตอบ เพื่อให้ชั้นผิวบริเวณใบหน้าดูอิ่มฟูขึ้น ดูอ่อนเยาว์ อยู่ได้นานช่วง 18 เดือน (เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีส่วนผสมของยาชา)
Restylane Classic
เป็นฟิลเลอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้แก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก มีลักษณะเป็นเนื้อเจลอนุภาคใหญ่ เหมาะกับการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องตื้นเช่น ร่องแก้มตื้นๆ ร่องรอยขมวดคิ้ว อยู่ได้นาน 12 เดือน(เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่ผสมของยาชา)
Restylane Kysse
เป็นฟิลเลอร์รุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยเฉพาะ ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก และ ปรับรูปทรงปาก ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 12 เดือน
Restylane SubQ
เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับใช้ยกพยุงเพราะเนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะหนักและหนืดที่สุดของตระกูล Restylane ทำให้ฉีดยากเพราะยามีความแข็งมากอาจต้องใช้เข็มใหญ่หรือเข็มทู่ที่ใหญ่ ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บมากดังนั้นจึงไม่เป็นที่นิยม
ความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีอะไรบ้าง
ด้วยกระบวนการผลิตของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อที่มีความต่างกัน และ รวมถึงในแต่ละยี่ห้อยังมีการผลิตออกมาหลายรุ่น ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีโมเลกุล ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นหลักคือ
- ฟิลเลอร์ Restylane มีจุดเด่นในเรื่องการยกพยุงผิว
- ฟิลเลอร์ juvederm มีจุดเด่นในด้านความเรียบเนียน
- ฟิลเลอร์ Perfectha มีจุดเด่นคือความยืดหยุ่น และ ความหนืด ของเนื้อฟิลเลอร์ทำให้คงสภาพอยู่ได้นาน
- ฟิลเลอร์ Belotero มีจุดเด่นในเรื่องความหลากหลายของเนื้อฟิลเลอร์
ส่วนการเลือกใช้คุณหมอจะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมกับบริเวณที่ใช้และปัญหาของคนไข้
ฟิลเลอร์ Restylane ของแท้ตรวจสอบอย่างไร?
การตรวจสอบฟินเลอร์ของแท้ไม่ได้ยากอย่างที่หลายหลายคนเข้าใจ วันนี้ออนนี่มีวิธีสังเกต Restylane ของแท้มาแนะนำดังนี้
- ที่กล่องมีรอยปรุสำหรับเปิด มีป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง และ เมื่อเปิดออกมาแล้วจะมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
- มีสติ๊กเกอร์ โมโนแกรม Restylane Galderma (เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ) และ มีเลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ เลข lot. ที่ข้างกล่อง และ เลข lot. ที่หลอด
- สามารถตรวจสอบเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท Galderma โทร. 02-0231800 ต่อ 40
- ก่อนฉีดขอให้หมอแกะกล่องและหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และ หลังฉีดควรเก็บกล่อง และ หลอดฟิลเลอร์ไว้ตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจ
ฉีดฟิลเลอร์ Restylane ช่วยเรื่องอะไร?
- ช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด ให้ได้สัดส่วนที่ดีมากขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เป็นรูปทรง ปากแห้ง ปากลอก
- ช่วยแก้ปัญหาใต้ตา จากการยุบตัวลงของกระดูก หรือ เนื้อบริเวณใต้ตา ปัญหาใต้ตาคล้ำ
- ช่วยแก้ปัญหาขมับตอบ ที่ทำให้หน้าดูแก่ ดูโทรม ให้ได้สัดส่วนรูปหน้าที่ละมุนมากขึ้น
- ช่วยเติมเต็มร่องแก้ม ให้มีความอิ่มฟู เพิ่มความหน้าเด็กให้กับใบหน้า
- ช่วยแก้ปัญหาหน้าเเบน ด้วยการฉีดแก้มส้ม เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติมาก
- ช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ ที่ทำให้หน้าดูโทรม ดูแก่กว่าวัย
- ช่วยเติมเต็มให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น ได้สัดส่วนที่ดีขึ้น
- ช่วยเรื่องกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าให้กลับมาดูเต่งตึง
ข้อควรปฎิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการตัวฟิลเลอร์อย่างละเอียด ถวมถึงการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และ แพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคในการฉีดอย่างถูกต้อง
- มีการศึกษาข้อมูลรีวิวต่าง ๆ และ วิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่า
ข้อปฏิบัติตัวหลังการฉีดฟิลเลอร์
- หลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพราะน้ำจะช่วยให้ซินเลอร์ฟูและให้ความเป็นธรรมมาชาติมายิ่งขึ้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์ งดการสัมผัส กด นวดในบริเวณที่ฉีด และ ควรระวังเรื่องของความร้อนที่อาจส่งผลต่อการคงสภาพของฟิลเลอร์ได้
- หากต้องการฉีดเพิ่ม ควรเว้นระยะเวลา 6 เดือน ก่อนจะทำการฉีดฟิลเลอร์
ข้อห้ามสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ Restylane
- ห้ามใช้ฟินเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตโดยเด็ดขาดเพราะอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ส่งผลอันตรายในระยะยาว
- ห้ามฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า หรือบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ เพราะอาจทำให้ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ถูกตำแหน่งจนเกิดผลข้างเคียงได้
- ห้ามฉีดฟิลเลอร์ restylane ในผู้ป่วยที่มีการยืนยันจากแพทย์ว่าแพ้สารฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์ Restylane ในกลุ่มของคุณแม่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
ฟิลเลอร์ Restylane ราคาเท่าไหร่?
- Restylane vital light lidocaine อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Lidocain (Classic) อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Refyne อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 10,662 บาทต่อซีซี
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ Restylane VS Juvederm แบบไหนดีกว่ากัน?
เนื่องจากฟิลเลอร์ทั้ง 2 ชนิดได้รับความนิยมสูงมากวันนี้เราจึงจะพามาดูว่าฟิลเลอร์ Restylane VS Juvederm เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง
ข้อที่เหมือนกัน
- เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา เหมือกันทั้ง 2 ยี่ห้อ
- เหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอย และ ปรับรูปหน้า
- ผ่านการทดสอบว่ามีความปลอดภัยสูง และ มีการใช้มาอย่างยาวนาน
- หลังการฉีดไม่มีอาการรุนแรง มีเพียงอาการข้างเคียงปกติเช่น มีรอยแดง และ บวม ที่จะกายไปได้เองใน 2-3 วัน
ข้อที่แตกต่างกัน
- Juvederm เป็นฟิลเลอร์ ที่มีหลากหลายรุ่นที่มีความเจาะจง เช่น สำหรับฉีดใต้ตา หรือ ฉีดปากเท่านั้น
- Juvederm เป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกา ส่วน Restylane สัญชาติสวีเดน
- Restylane มีราคาที่ถูกกว่า และ มีสภาพการคงตัวอยู่ได้ 6-12 เดือน แต่ Juverderm บางรุ่นอยู่ได้นาน 1-2 ปี และ มีราคาจะสูงกว่า
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ฟิลเลอร์ juvederm มีกี่รุ่น? ราคาเท่าไหร่ เหมาะกับฉีดบริเวณไหนบ้าง?
สรุป
ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี อาจจะต้องปรึกษาแพทย์และขอคำแนะนำก่อนฉีด เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญ จะมีเทคนิคเฉพาะตัว ที่สามารถประเมินปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด และ สามารถเลือกใช้ ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
