สัดส่วนที่สวยงาม ก็คงจะเป็นความใฝ่ฝันของทุกๆคน ในทุกเพศทุกวัน วันนี้เราจะมาดูเคล็ดลับความผอมที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพื่อช่วยให้ทุกคนได้หุ่นอย่างที่ตัวเองต้องการ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ต้องใช้ระยะเวลานานไหม และถ้าอยากผอมลงแบบเร่งด่วนต้องทำไงได้บ้าง มาดูกันเลย
สาเหตุของความอ้วนเกิดจากอะไร
- กินเกินความต้องการของร่างกาย
- ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- มีพฤติกรรมชอบทานอาหารที่เป็นของทอดของมันแป้ง และ น้ำตาลเป็นประจำ
- นอนดึก และ พักผ่อนน้อยกว่า 8 ชั่วโมง
- มีพฤติกรรมรับประทานอาหารครั้งละมากๆในมื้อเดียว
- ชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์เป็นประจำ
การลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ
การลดน้ำหนักสามารถทำได้หลายวิธี แต่ละวิธีจะให้ ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งในบางครั้งเราอาจจะต้องใช้การลดน้ำหนักหลายวิธีร่วมกัน เพื่อให้มีการเห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีลดน้ำหนักแบบธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
ควบคุมอาหาร
การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร เป็นการควบคุมพลังงานที่ได้รับต่อวัน ให้อยู่ในความพอดีขั้นต่ำต่อความต้องการของร่างกายมากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้มีการดึงไขมันออกมาเผาเป็นพลังงาน
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยทำให้ร่างกายดึงไขมันส่วนเกินออกมาใช้เป็นพลังงาน ต้องการออกกำลังกายที่แนะนำ คือ การวิ่ง เต้นแอโรบิค ปั่นจักรยาน คาร์ดิโอ โยคะ เป็นต้น อย่างน้อย 3-5 ครั้ง /ครั้งละ 30-45 นาที ต่อสัปดาห์ เพียงเท่านั้นก็สามารถมีส่วนช่วยในการช่วยลดความอ้วนได้แล้วค่ะ
ทานอาหารเย็นก่อน 6 โมงเย็น
การไม่รับประทานหลัง 6 โมงเย็น ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วทันใจ เนื่องจากหลังมื้อสุดท้ายแล้วร่างกายจะยังมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานไปอีกอย่างน้อย ๆ 4-5 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน ทำให้มีพลังงานตกค้างหลงเหลือในร่างกายน้อยลง ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกไปได้มากขึ้น (และไม่ต้องเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนอีกด้วย)
นอนให้เพียงพอและไม่นอนดึก
การอดนอน หรือการนอนดึก ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราอ้วนได้ เพราะการนอนดึกจะทำให้เราอาจมีอาการหิวในช่วงของเวลากลางคืน ดังนั้นเราจึงควรนอนให้เพียงพอในช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ 22.00น. เป็นต้นไป และควรพักผ่อนอย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายเราได้มีการผลิตสารควบคุมน้ำหนัก และ สารควบคุมน้ำหนักนี้เป็นสารพิเศษที่ชื่อว่าฮอร์โมนแลปติน (Leptin) ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นมาได้เอง โดยเซลล์ไขมันในร่างกายเราสามารถหลั่งโปรตีนฮอร์โมนชนิดนี้ แล้วส่งสัญญาณไปที่สมองเพื่อระงับความอยากอาหาร
กินอาหารที่มีกากใยสูง
เน้นผักผลไม้ การทานผักผลไม้ถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะนอกจากผักผลไม้จะมีกากใยสูงแล้ว ยังมีวิตามิน ที่จะช่วยบำรุงร่างกายไปพร้อมๆกับการลดน้ำหนักได้อีกด้วย ซึ่งผลไม่ที่เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนักได้แก่
- แตงโม
- แก้วมังกร
- สตรอเบอรี่
- ฝรั่ง
- ส้ม
- มะละกอ
- ชมพู่
- แอปเปิล
- บลูเบอร์รี่
การทานน้ำลดน้ำหนัก วิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ลดน้ำหนักที่กำลังมาแรงอีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะก่อนการทานอาหารในแต่ละมื้อ จะช่วยทำให้ลดความอยากอาหารให้น้อยลง นอกจาก ยังช่วยลดความอยากดื่มของหวาน กาแฟ ชา น้ำอัดลม ได้อีกด้วย (มีสูตรคำนวนความต้องการน้ำของร่างกาย คือ ให้นำน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้มาหารด้วย2 ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำที่เราควรดื่มใน 1 วัน มีหน่วยเป็นลิตร)
วิธีผอมอย่างเร่งด่วนมีอะไรบ้าง
นอกจากจะสามารถลดน้ำหนักด้วยวิธี จากธรรมชาติแล้วยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถทำให้ผอมลงได้อย่างรวดเร็ว เช่น
1. การดูดไขมัน
การดูดไขมันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้สัดส่วนดูเฟิร์มกระชับ รูปร่างดูลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการดูดไขมันนี้ถือเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกิน และ ลดไขมันแบบเฉพาะจุดออก ในบริเวณที่ไม่สามารถเอาออกได้ด้วย การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร หรืออื่นๆ โดยบริเวณที่นิยมมากในการดูดไขมันได้แก่ บริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก น่อง เป็นต้น ซึ่งการดูดไขมันนี้จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น 3-7 วัน เนื่องจากกล้ามเนื้อและผิวหนังอาจได้รับการบาดเจ็บระหว่างการรักษาได้
2. ฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต คือ การฉีดตัวยา ที่ช่วยลดไขมันส่วนเกิน และ กระชับสัดส่วน โดยประกอบด้วยสารที่มีคุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมัน รวมถึงช่วยลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ เป็นวิธีการลดไขมันส่วนเกินแบบเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะตัวยาจะเข้าไปทำให้ไขมัน ที่จับตัวกันเป็นก้อนแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ถือเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง หลังการทำไม่ต้องพักฟื้น เจ็บตัวน้อย ซึ่งบริเวณที่นิยมในการฉีดเมโสแฟตได้แก่
- บริเวณแก้ม กรอบหน้า
- บริเวณเหนียงใต้คาง
- บริเวณต้นแขน ต้นขา
- บริเวณหน้าท้อง รอบเอว
- บริเวณสะโพก
- บริเวณน่อง
3. ทานยาลดน้ำหนัก
การทานยาลดน้ำหนักเป็นอีกวิธีที่หลายหลายคนนิยมใช้ เพื่อให้น้ำหนักมีการลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ยาลดน้ำหนักก็มีทั้งคุณและโทษ ซึ่งยาบางชนิดอาจสางผลให้น้ำหนักและสัดส่วนลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงแรก แต่กลับมีผลข้างเคียงในระยะยาวได้แก่
- ความดันโลหิตสูงขึ้นผิดปกติ
- มีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น
- วิตกกังวล นอนไม่หลับ
- มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ วิงเวียน
- ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้ ท้องเสีย
- ปากแห้ง ลิ้นเปลี่ยนรส หรือ รู้สึกถึงรสโลหะในปาก
- เป็นตะคริวที่หน้าท้อง มีอาการชาที่ผิวหนัง
- มีอาการตับวาย หรือไตวาย เฉียบพลัน
วิธีอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ผลข้างเคียงจากการการลดน้ำหนักแบบไม่ถูกวิธี
การลดน้ำหนัก ควรทำด้วยวิธีที่ถูกต้องเพราะ บางคนหักโหมหนักจนเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ และ มีโทษต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึงเช่น
- หิวมากขึ้น หิวบ่อย หิวตลอดเวลา
- โยโย่เอฟเฟค
- หน้ามืด เป็นลม
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- สมองทำงานช้า อ่อนล้า ขาดสมาธิ
สรุป
การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง จะช่วยทำให้สัดส่วนดูเฟิร์มกระชับมากยิ่งขึ้น และในบางครั้งการออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารก็ไม่ได้ทำให้ผอมลงอย่างชัดเจน เพราะยังมีไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในจุดต่างๆของร่างกาย ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องหาวิธีที่ปลอดภัยในการช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินนั้นออกไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของความผอมที่ชัดเจน